ประชาสัมพันธ์

เทศบาลเมืองนครพนม เข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ที่รุกที่สาธารณะ หลังชาวบ้านร้อง ปปช.ให้บังคับใช้กฏหมาย

วัน 29 สิงหาคม 2566 นายอำพร ศิริภักดิ์ ผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลเมืองนครพนม พร้อมด้วยนายมนตรี ม่วงคำหมื่น และนายวิรุจน์ ไชยสัตย์ รองปลัดเทศบาลเมืองนครพนม ได้นำกำลังเทศกิจและเครื่องจักรกล เข้ารื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่ปลูกรุกล้ำทางสาธารณะ บริเวณหมู่บ้านพิมพากร บ้านน้อยใต้ เขตเทศบาลเมืองนครพนม โดยมีนายปริญญา ฤทธิ์ตา หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการจังหวัดนครพนมร่วมเดินทางมาสังเกตการณ์ในครั้งนี้ด้วย

นายปริญญา ฤทธิ์ตา เปิดเผยว่า ตนมาร่วมสังเกตการณ์ในครั้งนี้เนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านที่อยู่ด้านปลายถนนที่ถูกรุกล้ำ ว่าได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากทางสาธารณะที่เคยใช้เป็นประจำถูกที่ข้างเคียงก่อสร้างอาคารรุกล้ำเข้าไปจนไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งหลังจากได้รับเรื่องสำนักงาน ปปช.ก็ประสานขอข้อมูลกับเทศบาลเมืองนครพนมเพื่อขอข้อมูล เบื้องต้นทราบว่าทางเทศบาลอยู่ระหว่างดำเดินคดีกับผู้ รุกล้ำโดยได้ส่งนิติกรเข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้วที่ สภ.เมืองนครพนม ขณะเดียวกันก็ได้แจ้งประสานให้เจ้าของที่ให้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากทางสาธารณะแล้ว เนื่องจากได้ตรวจสอบแนวเขตจากระวางของที่ดินจังหวัดนครพนมแล้วพบว่ามีการก่อสร้างรุกล้ำทางสาธารณะจริง แต่ทางเจ้าของยังเพิกเฉย จึงได้มีการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าวบังคับใช้กฎหมายทันที

ด้านนายอำพร ศิริภักดิ์ ผู้อำนวยการกองช่างเทศบาล เมืองนครพนม กล่าวว่าทางเทศบาลได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่ามีการก่อสร้างอาคารรุกล้ำทางสาธารณะจริงโดยได้ประสานให้ที่ดินจังหวัดนครพนมเข้ารังวัดสอบเขตแล้วพร้อมทำแผนที่ตามระยะจริงซึ่งปรากฏในเอกสารสิทธิ์และระวางของกรมที่ดินและได้กั้นแนวเขตไว้อย่างชัดเจนพร้อมแจ้งให้เจ้าของที่ดินคือนางเกวลิน ศรีพันธ์ชาติ ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัดให้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำทางสาธารณะออกภายในเวลาที่กำหนดแล้ว แต่เจ้าของที่ยังเพิกเฉย ทางเจ้าหน้าที่จึงมีความจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย เข้าทำการรื้อถอนเองเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบหลายสิบครัวเรือนที่ต้องใช้เส้นทางดังกล่าวสัญจรไปมา

นายสุรพงษ์ เทพกรรณ์ อายุ 65 ปี ประธานชุมชนวัดสารภาณนิมิต แกนนำชาวบ้านเปิดเผยว่า ตนได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนว่าทางสาธารณะที่ใช้อยู่ถูกปิดไม่สามารถใช้สัญจรไปมาได้จึงลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าแต่เดิมเจ้าของที่ที่ก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างและรั้วปิดกั้นถนนสาธารณะแต่ได้เปิดทางด้านข้างให้ชาวบ้านได้ใช้สัญจรไปมาได้ ต่อมาเจ้าของที่ข้างเคียงได้ทำการสอบเขตใหม่และทำการกั้นรั้วทำแนวเขตของตนเองชาวบ้านจึงไม่มาสารถใช้สัญจรได้อีก ตนจึงได้แจ้งเรื่องดังกล่าวนี้ให้เทศบาลเมืองนครพนมทราบตามลำดับชั้นทันที่ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณสองปีที่แล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า ชาวบ้านจึงนำเรื่องนี้ไปร้องกับ ปปช.เพื่อขอให้ช่วยอีกทางหนึ่ง จนกระทั่งวันนี้ทางเทศบาลเมืองนครพนมได้นำเครื่องจักรกลและเจ้าหน้าที่เข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำถนนสาธารณะ สร้างความโล่งอกโล่งใจให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างยิ่ง

ด้านนางบุญร่วม กลัดบุบผา อายุ 59 ปี ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบกล่าวขณะมาร่วมสังเกตการณ์การรื้อถอนว่า รู้สึกดีใจที่ทางการเข้ามารื้อถอนเสียที ชาวบ้านจะได้ใช้รถผ่านเข้าออกได้เพราะทนลำบากมากว่าสองปีแล้ว เนื่องจากทางเข้าบ้านของตนมีทางนี้ทางเดียวจึงขอขอบคุณทางเทศบาลเมืองนครพนม และ ปปช.ที่ช่วยดำเนินการให้