ข่าวสังคม

นครพนม หารือแนวทางขับเคลื่อนนโยบาย ผู้ว่าฯ CEO

วันที่ 29 กันยายน 2566 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานประชุมหารือแลกแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายผู้ว่าฯ CEO ร่วมกับคณะหัวหน้าส่วนราชการส่วนภูมิภาค และผ่านระบบวิดีโอ Zoom Meeting ร่วมกับนายอำเภอทั้ง 12 อำเภอในพื้นที่จังหวัดนครพนม เพื่อรับฟังความเห็นในประเด็นการมอบอำนาจการบริหารในเรื่องใดให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดแล้วจะช่วยสนับสนุนการขับเคลื่อนการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการให้ประสบความสำเร็จ และประเด็นปัญหา อุปสรรคในการปฏิบัติงานของผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ และข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อให้การบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนที่ฝ่ายเลขาจะทำการรวบรวมข้อมูลที่ได้ทั้งหมดส่งต่อให้กระทรวงมหาดไทย และสำนักงาน ก.พ.ร. ต่อไป

โดยจากการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ได้มีการหยิบยกประเด็นการขับเคลื่อนพัฒนาระบบบริหารราชการแผ่นดินในส่วนภูมิภาค ภายใต้การนำของผู้ว่าราชการจังหวัดให้มีความเข้มแข็ง สามารถทำหน้าที่เป็นผู้นำการบูรณาการส่วนราชการ ตลอดจนภาคีเครือข่ายในพื้นที่ในการดูแลพี่น้องประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ได้เน้นย้ำให้กระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้วยความรวดเร็ว เพื่อสนองตอบความต้องการของพี่น้องประชาชน โดยยึดหลัก ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที ประกอบกับที่ผ่านมาทุกจังหวัดมีการขับเคลื่อนนโยบายผู้ว่าฯ CEO โดยใช้การบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ และสำนักงาน ก.พ.ร. ได้กำหนดการขับเคลื่อนการส่งเสริมพัฒนาในรูปแบบต่างๆ เช่น การประเมินจังหวัดที่มีผลสัมฤทธิ์สูง การประเมินรางวัลเลิศรัฐ ซึ่งในการประเมินงานทำให้พบว่าปัจจุบันผู้ว่าราชการจังหวัดประสบปัญหาและอุปสรรคในการบริหารงานในพื้นที่ที่แตกต่างกันไป เนื่องจากอำนาจบางเรื่องอยู่ที่ส่วนกลาง ทำให้การดูแลบริหารจัดการในพื้นที่เป็นไปด้วยความล่าช้าในการดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ดังนั้นจึงได้เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนร่วมกันเสนอความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ แลกเปลี่ยนแนวคิด เพื่อนำไปสู่การปรับปรุง เปลี่ยนแปลงที่มาเสริมสร้างความเข้มแข็งในการทำงานของกรมการจังหวัด ตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง