นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้เดินทางไปตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ซึ่งเป็นพื้นที่ตามแนวลุ่มน้ำชีและถูกปริมาณน้ำชีเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรและถนนเส้นทางเข้าออกหมู่บ้าน เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านในระยะยาว
วันที่ 7 ตุลาคม 2566 เวลา 10.30 น. นายสุวัฒน์ เข็มเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมด้วย นายไกร เอี่ยมจุฬา รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร หัวหน้าส่วนราชการ ปลัดอำเภอคำเขื่อนแก้ว ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ให้การต้อนรับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นางเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่บ้านทรายงาม ตำบลกุดกุง อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร โดยนายกรัฐมนตรีได้นั่งรถยกสูงของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ทะเบียน 53-7093 กรุงเทพมหานคร เข้าพื้นที่เพื่อพบปะประชาชนและมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในหมู่บ้าน ณ วัดบ้านทรายงาม ตำบลกุดกุง อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร เมื่อเดินทางมาถึงมีประชาชนรอต้อนรับผูกผ้าขาวม้าให้กำลังใจ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้กราบนมัสการพระครูเมธี ธรรมบัญฑิต เจ้าคณะอำเภอคำเขื่อนแก้ว พร้อมถวายผ้าไตร และจตุปัจจัยไทยธรรม โดยพระครูฯ ได้มอบพระพุทธบุษยรัตน์จำลอง ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดยโสธร พร้อมเหล็กไหลของทางวัด รวมทั้งผูกข้อมือให้พรกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ร่วมคณะไปในครั้งนี้
จากนั้น นายสุวัฒน์ เข็มเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ได้กล่าวต้อนรับและรายงานสถานการณ์อุทกภัย และนายกฯ ได้พบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนด้วยความเป็นกันเอง นอกจากได้ติดตามสถานการณ์น้ำแล้ว ยังได้พูดคุยกับชาวบ้านเรื่องเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท และโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค พร้อมทั้งสอบถามเรื่องปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ซึ่งต้องขอให้ผู้ใหญ่พ่อแม่ดูแลบุตรหลานของตนเองให้ดีๆ
บ้านทรายงาม ตำบลกุดกุง อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร เป็นพื้นที่ที่ประสบปัญหาปริมาณน้ำชีเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมหมู่บ้านเป็นประจำทุกปี เพราะเป็นพื้นที่ที่อยู่ตามแนวลุ่มน้ำชี ส่วนในปีนี้ปริมาณน้ำเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมถนนเส้นทางเข้าออกหมู่บ้านซึ่งมีเพียงเส้นทางเดียวระดับน้ำสูงกว่า 60 เซนติเมตร เป็นช่วงๆ รวมระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร จนรถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวบ้านทรายงาม ถูกตัดขาดกลายสภาพเป็นเกาะกลางน้ำ นอกจากนี้แล้วปริมาณน้ำยังได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวรอบๆหมู่บ้านเป็นบริเวณกว้างและคาดว่าต้นข้าวที่จมอยู่ใต้น้ำมานากว่า 2 สัปดาห์ คงจะได้รับความเสียหายทั้งหมด
ทั้งนี้ บ้านทรายงาม ตำบลกุดกุง อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร มีผู้ประสบภัยแล้ว จำนวน 209 ครัวเรือน 869 คน การเป็นอยู่ของชาวบ้านแม้จะมีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้อยู่ และบ้านเรือนยังไม่ได้ผลกระทบ แต่ความเดือดร้อนคือการสัญจรเข้า-ออกหมู่บ้านโดยสิ่งที่ชาวบ้านต้องการเร่งด่วนหลังน้ำลด คือการขอรับการช่วยเหลือพันธุ์ข้าว เนื่องจากพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้านได้รับความเสียหายทั้งหมด
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะได้นั่งรถยกสูงของทหาร และ ปภ. ลงพื้นที่ฝ่ากระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวเพื่อไปให้กำลังใจกับชาวบ้านทรายงาม ที่ปริมาณน้ำจากแม่น้ำชีไหลเข้าท่วมปิดทางเข้า-ออกหมู่บ้าน และให้คำสัญญาจะสร้างถนนยกระดับทางเข้าหมู่บ้านให้สูงกว่าเดิมหนีน้ำท่วม เพื่อเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาวให้กับชาวบ้านด้วย นอกจากนี้ยังได้เยี่ยมให้กำลังใจรับทราบสภาพปัญหา มอบถุงยังชีพพร้อมกับอาหารสัตว์ จำนวน 300 ชุด ให้แก่ ประชาชน และจะสร้างถนนยกระดับให้กับชาวบ้านทรายงาม ตามที่ขอมาพร้อมสัญญาว่าจะกลับมาดูแลพี่น้องประชาชน และจะต้องมีการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการร่วมกับทุกจังหวัด เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมระยะยาวอย่างยั่งยืนต่อไป