ข่าวสังคม

บุรีรัมย์ ครอบครัวหนุ่มแรงงานไทยในอิสราเอลวีดีโอคอลถามข่าวเจ้าตัวยันยังปลอดภัยดีแต่พร้อมอพยพหากมีสัญญาณแจ้งเตือน

พ่อแม่และภรรยาหนุ่มแรงงานชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ที่ทำงานอยู่อิสราเอล ได้วีดีโอคอล พูดคุยสอบถามความเป็นอยู่และผลกระทบจากเหตุสู้รบ เจ้าตัวยันยังปลอดภัยดีเพราะอยู่ห่างจากพื้นที่สู้รบราว 100 กม. แต่พร้อมอพยพทุกเมื่อหากการสู้รบรุนแรงและขยายพื้นที่

เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2566 นางสำเรียง ก้อนเสมา อายุ 72 ปี พร้อมด้วยนายประกอบ ก้อนเสมา อายุ 71 ปี และนางวิรากานต์ ก้อนเสมา อายุ 37 ปี พ่อแม่และภรรยาของนายพีระพงษ์ ก้อนเสมา อายุ 38 ปี หนุ่มแรงงานชาวตำบลเจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ที่ทำงานอยู่ประเทศอิสราเอล ได้วีดีโอคอลพูดคุยสอบถามสภาพความเป็นอยู่และผลกระทบจากเหตุสู้รบระหว่างกล่มฮามาส – อิสราเอล เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัย หลังทราบข่าวว่ามีแรงงานไทยเสียชีวิตจากเหตุสู้รบดังกล่าวแล้ว 2 ราย และถูกจับเป็นตัวประกันถึง 11 คน

แต่จาการพูดคุยกับนายพีระพงษ์ หนุ่มแรงงานไทย ต่างยืนยันกับครอบครัวและภรรยาว่า ยังปลอดภัยดี เพราะที่พักและที่ทำงานอยู่ห่างจากจุดที่มีการสู้รบกันประมาณ 100 กม. แต่นายพีระพงษ์ บอกว่า ถึงแม้จะห่างจากพื้นที่สู้รบ 100 กม. แต่ก็ยังได้ยินเสียงระเบิดเป็นระยะๆ โดยเฉพาะตอนกลางคืน แต่ทุกคนก็พยายามอยู่ในที่พัก อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์สู้รบรุนแรงหรือขยายพื้นที่จนอาจเกิดความไม่ปลอดภัย หรือได้รับสัญญาแจ้งเตือนจากทางการอิสราเอลก็พร้อมจะอพยพไปที่ปลอดภัยทุกเมื่อ แต่ตอนนี้ยังทำงานได้ปกติ

นางสำเรียง ก้อนเสมา แม่ของนายพีระพงษ์ บอกว่า ลูกชายเดินทางไปทำการเกษตรที่เมืองลานานา ประเทศอิสราเอลได้ 3 ปีกว่าแล้ว จากกำหนดทั้งหมด 5 ปี หลังทราบข่าวว่ามีเหตุการณ์สู้รบที่อิสราเอล ทำให้มีแรงงานไทยเสียชีวิต และถูกจับเป็นตัวประกันหลายคน ก็รู้สึกเป็นห่วงลูกชายมากนอนไม่ค่อยหลับ จึงได้ให้ลูกสะใภ้วีดีโอคอลสอบถามข่าวคราวของลูกชาย พอลูกยืนยันว่าปลอดภัยเพราะอยู่ห่างจากพื้นที่สู้รบกว่า 100 กม. ก็รู้สึกคลายความกังวล แต่ก็อดเป็นห่วงลูกไม่ได้ก็บอกให้ลูกดูแลตัวเอง ก็ภาวนาขอให้ลูกชายปลอดภัย

ไม่ต่างจากนางวิรากานต์ ก้อนเสมา ผู้เป็นภรรยา บอกว่า เป็นห่วงสามีมากหลังทราบข่าวก็ติดต่อสอบถามสามีเกือบทุกวัน แต่สามีก็ยืนยันว่าที่ทำงานและที่พักยังอยู่ห่างจากพื้นที่สู้รบไกลกว่า 100 กม. แต่ก็ยังได้ยินเสียงระเบิดเป็นระยะ สามีก็ส่งคลิปมาให้ดูเรื่อยๆ แม้ว่าสามีจะอยู่ห่างจากพื้นที่สู้รบแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้เพราะไม่รู้ว่าสถานการณ์จะรุนแรงหรือขยายพื้นที่มากขึ้นหรือไม่ หากเหตุการณ์รุนแรงและทางการแจ้งให้อพยพก็อยากให้สามีอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ส่วนสามีจะกลับหรือไม่กลับไทยก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของสามี