ข่าวสังคม

นครพนม เมียแรงงานอิสราเอล แจงรับไม่ได้หลังแรงงานนครพนมโทรมาแจ้งข่าวร้าย

วันที่ 21 ต.ค.2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านเลขที่ 51 บ.นาล้อม ม.2 ต.นาหัวบ่อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนายพัฒนายุทธ ต้อนโสกรี หรือ ท่า อายุ 40 ปี หนึ่งในแรงงานไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันที่เมืองโมชาฟ-คิบบุตซ์ ชุมชนเกษตรในอิสราเอล ล่าสุดแรงงาน จ.นครพนม โทรศัพท์แจ้งข่าวว่านายพัฒนายุทธ เสียชีวิตแล้ว เมียถึงกับช็อก พบกับนางราตรี เหลินต้ายซ้าย อายุ 47 ปี ภรรยานายพัฒนายุทธ เปิดเผยว่า สามีนำที่นาไปก็เงิน ธ.ก.ส.200,000 บาท ไปทำงานรีดนมวัวในฟาร์มเกษตร นาน 2 ปี 6 เดือน ได้เงินเดือนราว 50,000-60,000 บาท อยู่ห่างจากจุดสู้รบ 6 กิโลเมตร วันที่ 7 ต.ค.66 ช่วง 10 โมงเช้า ยังวีดีโอคอลติดต่อพูดคุยกับสามีได้ปกติ แต่หลังจากที่คุยกันในวันนั้นได้ไม่ถึง 10 นาที สัญญาณโทรศัพท์ได้ถูกตัดขาดหายไปอย่างกระทันหันและหลังจากนั้นตนก็ติดต่อสามีไม่ได้อีกเลยจนถึงเวลานี้

แต่อย่างไรก็ตามได้มีเจ้าหน้าที่ของทางสำนักงานแรงงานจังหวัด เดินทางมาให้กำลังใจพร้อมทั้งชี้แจงถึงสิทธิต่างๆให้ตนทราบ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าสามีของตนยังมีชีวิตอยู่หรือเป็นตายร้ายดีอย่างไร จนเวลาล่วงเลยมา 14 วันแล้ว ทุกวันนี้ตนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหล เพราะอดเป็นห่วงสามีไม่ได้ ที่สำคัญเขาคือเสาหลักสำคัญของครอบครัว ส่วนลูกสาวคนเดียววัย 12 ขวบ ที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.6 ต่างก็ทำได้เพียงแต่กอดกันนอนสองแม่ลูก ด้วยความหวังว่าพ่อจะกลับมาอย่างปลอดภัยในเร็ววันนี้

นางวิทยา โพธิยะ อายุ 51 ปี พี่สาวนางราตรี กล่าวว่า เช้าวันนี้ช่วง 8 โมง สำนักงานแรงงานจังหวัดนครพนม ได้โทรศัพท์แจ้งข่าวให้นางราตรี ทราบว่านายพัฒนายุทธ และเพื่อนหลานที่โทรศัพท์มาแจ้งว่านายพัฒนายุทธ ได้เสียชีวิตแล้ว ทำให้ถึงกับช็อกเป็นลมล้มพับตั้งแต่เช้าจนเที่ยง ญาติพี่น้องกว่า 20 คนจึงเดินทางมาให้กำลังใจ ต่างพยายามช่วยกันนำยาหม่องยาดมมาให้สูดดม รวมถึงจัดหาน้ำซุปไก่สกัดและนมมาให้ดื่มแต่ก็แทบจะกินอะไรไม่ลง

ช่วงเวลาถัดมาในช่วงสาย มีเจ้าหน้าที่ของทางสำนักงานแรงงานจังหวัดนครพนม ได้โทรศัพท์มาขอโทษกับนางราตรีอีกครั้งพร้อมกล่าวว่า กรณีการเสียชีวิตของนายพัฒนายุทธ ขณะยังไม่แน่ชัดว่าเสียชีวิตแล้วหรือไม่อย่างไรเสียขอให้รอความชัดเจนกว่านี้อีกครั้ง ซึ่งทางญาติต่างก็ยังมีความหวังการยังมีชีวิตอยู่ของ นายพัฒนายุทธ เพราะทีแรกมีข่าวว่านายพัฒนายุทธ แค่ถูกจับเป็นตัวประกัน อยากให้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับลูกและภรรยาโดยเร็ว ส่วนปัญหาหนี้สินทุกวันนี้ ทางครอบครัวได้ติดค้างหนี้ ธ.ก.ส.อยู่ราว 100,000 บาท และหนี้งวดรถกระบะอีกจำนวนหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากแลกได้ตนขอให้สามีมีชีวิตกลับมาตัวเป็นๆ กลับมาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาก็พอ