ข่าวสังคม

นครพนม “เติมโลหิตครั้งใหญ่ให้กาชาด” โดย รด.จิตอาสา 25,000 นาย “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณรัชกาลที่ 9

วันที่ 12 ธ.ค. 2566 ที่ศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม พลตรี สถาพร บุญชู ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “เติมโลหิตครั้งใหญ่ให้กาชาด” โดย รด.จิตอาสา 25,000 นาย “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” ที่หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหารมณฑลทหารบกที่ 210 จัดขึ้น ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ วันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2566 และด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานโครงการจิตอาสาพระราชทาน ด้วยทรงมุ่งหวังให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่า ปรองดองสามัคคี ร่วมมือร่วมใจ ประกอบกิจกรรมสาธารณะ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนส่วนรวม โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ให้มีความรักความผูกพัน ในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยมีนางสงวน จันทร์พร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ นักศึกษาวิชาทหาร ประชาชนจิตอาสา ร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง

จากนั้นประธานในพิธีนำกล่าวคำอาเศียรวาท น้อมจิตตั้งมั่นร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ตลอดระยะเวลากว่า 70 ปี แห่งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ปวงพสกนิกรใต้ร่มพระบารมีทั่วราชอาณาจักร ต่างประจักษ์ชัดแจ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม โครงการในพระราชดำริหลายพันโครงการก่อให้เกิดประโยชน์อย่างอเนกอนันต์แก่ประเทศชาติ ทั้งได้พระราชทานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเป็นแนวทางให้ประชาชนได้ดำเนินชีวิต โดยใช้ความรู้และสติปัญญาเป็นภูมิคุ้มกัน อีกทั้งยังก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนของประเทศ ที่ได้น้อมนำแนวทางพระราชทานไปปฏิบัติ

โดยกิจกรรมในครั้งนี้เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ โดยน้องๆ นักศึกษาวิชาทหารที่ได้ผ่านการฝึกและเสริมสร้างให้เป็นผู้ที่มีวินัย รักความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีความเสียสละส่วนตน ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม ทั้งนี้ในอนาคตน้องๆ นักศึกษาวิชาทหารทุกคนจะเป็นเยาวชนที่ดีของสังคม และเป็นกำลังพลสำรองที่มีคุณภาพของกองทัพและประเทศชาติต่อไป ซึ่งน้องๆ นักศึกษาวิชาทหารที่มีอายุตั้งแต่ 17 ปีขึ้นไป ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เป็นผู้ที่มีความพร้อมทางร่างกาย และมีความสมัครใจเข้าร่วมบริจาคโลหิต ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเสียสละอันยิ่งใหญ่ที่บุคคลหนึ่งจะสามารถทำได้ในการช่วยเหลือต่อความหวังต่อชีวิตให้กับผู้อื่นอีกเป็นจำนวนมาก และการบริจาคโลหิตในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการเตรียมโลหิตให้แก่สภากาชาดไทย เพื่อสนับสนุนการรักษาพยาบาล ผู้ป่วยในโรงพยาบาลต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูงและมีความต้องการโลหิตจำนวนมาก