ข่าวสังคม

นครพนม ทูตอิสราเอลเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากการถูกกลุ่ม ฮามาสโจมตี ยืนยันได้รับสิทธิประโยชน์ทุกอย่างเหมือนคนอิสราเอล

วันที่ 9 ม.ค. 2567 เวลา 10.00 น. นางออร์น่า ซากิฟ เอกอัคราชทูตอิสราเอล ประจำประเทศไทยได้เดินทาง ลงพื้นจังหวัดนครพนม ที่บ้านนางโสดา แต้มกลาง ซึ่งเป็นแม่ของนายปริญญา แต้มกลาง แรงงานไทยในอิสราเอลที่เสียชีวิตจากการถูกโจมตีของกลุ่มฮามาส ซึ่งอยู่ที่บ้านเลขที่ 189 ม.8 บ้านนาล้อม ต.นาหัวบ่อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เพื่อเยี่ยมและให้กำลังต่อครอบครัวพร้อมมอบสิ่งของ และของใช้ที่จำเป็นให้ครอบครัวของนายปริญญา

จากนั้นนางออร์น่า ซากิฟ ได้เดินทางไปยังบ้านของ นายเศรษฐา โฮมสร ที่บ้านหนองเดิ่นพัฒนา ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง เพื่อให้ความช่วยเหลือพร้อมให้กำลังใจต่อครอบครัวของนายเศรษฐา ที่เสียชีวิต จากสถานการณ์ถูกกลุ่มกองกำลังฮามาสบุกโจมตี เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม2566 ที่ผ่านมา

โดยนางออร์น่า ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า จุดประสงค์ที่มาในครั้งนี้ก็เพื่อมาเยี่ยมครอบครัวแรงงานที่เสียชีวิตและเพื่อมาแสดงความเคารพครอบครัวผู้สูญเสียจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ที่ถูกกองกำลังฮามาส บุกโจมตีซึ่งในครั้งนั้นได้มีชาวอิสราเอลประมาณ 1,300 คนรวมถึงแรงงานไทยจำนวน 39 คน ที่เสียชีวิต ในฐานะที่ตนเป็นเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยจึงเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องออกมาเยี่ยมครอบครัวของแรงงานไทยเพื่อรำลึกถึงแรงงานไทยที่ไปทำงานยังประเทศอิสราเอล ทั้งนี้เรื่องสิทธิประโยชน์ของแรงงานไทยก็จะได้รับเฉกเช่นเดียวกันกับชาวอิสราเอล และในการมาครั้งนี้ได้ประสานงานกับทางกระทรวงแรงงานเพื่อให้ครอบครัวแรงงานไทยที่เสียชีวิตทุกคนได้รับสิทธิประโยชน์และได้รับเงินช่วยเหลือจากทางรัฐบาลอิสราเอล เพื่อให้ครอบครัวผู้สูญเสียชีวิตได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีในอนาคต ซึ่งจากการลงมาในพื้นที่ทราบว่าแรงงานผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นหัวหน้าครอบครัวในการออกไปหาเงินมาเพื่อจุนเจือครอบครัว ทั้งนี้จึงคาดหวังว่าสิ่งที่ช่วยเหลืออาจเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆที่ทางรัฐบาลให้การช่วยเหลือให้มีเงินใช้จ่ายมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นไม่ลำบาก ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแม่ภรรยาและลูกๆจะได้รับเงินเยียวยาครบกันทุกคน โดยก่อนหน้านี้ได้มีแรงงานไทยไปทำงานยังประเทศอิสราเอลจำนวนไม่น้อยกว่า 30,000 คน ในจำนวนนี้ได้มีแรงงานไทยจำนวน 8,500 คนที่ได้เดินทางกลับมาแล้ว ขณะที่นายจ้างชาวอิสราเอลได้กล่าวว่ารักแรงงานไทยมาก อีกทั้งแรงงานไทยก็ชอบที่จะทำงานในประเทศอิสราเอลเนื่องเพราะเงื่อนไขการจ้างงานดี ขณะที่ทางการอิสราเอลก็คาดหวังว่าแรงงานไทยที่กลับมาจะเดินทางกลับไปทำงานยังที่ประเทศอิสราเอลอีกในเร็วๆนี้ สำหรับตัวประกันที่ถูกกองกำลัง ฮามาสจับตัวไปนั้นมีจำนวน 250 คนมีคนไทย 31 คนและถูกปล่อยตัวกลับมาแล้วจำนวน 23 คน และเวลานี้ทางการอิสราเอลก็พยายามทุกวิถีทางที่จะให้มีการปล่อยตัวประกันทั้งหมด

ทั้งนี้ จังหวัดนครพนม มีแรงงานไปทำงานที่อิสราเอลทั้งหมดประมาณ 2,136 คน เป็นแรงงานหญิง 48 คนที่เหลือเป็นแรงงานชาย ถูกจับเป็นตัวประกัน 6 คน คือ1. นายอุทัย แสงนวลอยู่บ้านโพนค้อ ต คำเตย อ.เมือง 2. นายบุดดี แสงบุญ อยู่บ้านดงน้อย ต.สามผง อ.ศรึสงคราม 3. นายนัฐพร อ่อนแก้ว อยู่บ้านหนองแสง ต.นามะเขือ อ.ปลาปาก 4. นายพัฒนายุทธ ตอนโศกรี อยู่บ้านนาล้อม ต.นาหัวบ่อ อ.โพนสวรรค์ 5. นายเฉลิมชัย แสงแก้ว อยู่บ้านโคกกลาง ต.ปลาปาก อ.ปลาปาก และ 6. นายณัฐพงษ์ ปินตา อยู่บ้านโพธิ์ตาก ต.โพธิ์ตาก อ.เมืองนครพนม โดยเกือบทั้งหมดได้รับการปล่อยตัวกลับบ้านแล้ว ยกเว้นนายณัฐพงษ์ ปินตา ที่กลุ่มฮามาสยังไม่ได้ปล่อยตัวออกมา