ชาวบ้านบ้านบุขี้เหล็ก อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตความยาว 85 เมตรผิดแบบแปลน ทั้งปล่อยให้เจ้าของนาฮุบทางสาธารณะเป็นที่ทำกิน ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถใช้สัญจรได้ ขณะ ป.ป.ช.ลงพื้นที่ตรวจสอบพบสร้างผิดแบบและมีการรุกทางสาธารณะจริง จี้ อบต.ดำเนินการให้ถูกต้อง
(22 มี.ค.67) ชาวบ้านบ้านบุขี้เหล็ก หมู่ 6 ตำบลแสลงพัน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร่วมกันออกมาร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบกรณีที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แสลงพัน ก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กในหมู่บ้านไม่ตรงตามแบบ ซึ่งตามแบบถนนคอนกรีตดังกล่าวจะต้องมีขนาดความกว้าง 5 เมตร ยาว 85 เมตร หนา 0.15 เมตร ภายใต้งบประมาณ 236,000 บาท ซึ่งเป็นแผนพัฒนาหมู่บ้านของ อบต.แสลงพัน แต่มีการก่อสร้างความยาวเพียง 60 เมตร แต่อีก 25 เมตรกลับทำแยกออกไปอีกฝั่งซึ่งผิดจากแบบแปลน ทั้งนี้ชาวบ้านยังได้ร้องเรียนให้ตรวจสอบกรณีที่เจ้าของที่นาบุกรุกปิดทางสาธารณะ ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถใช้ประโยชน์ในการสัญจรได้ ทั้งที่ทางสาธารณะดังกล่าวยาวไปจรดกับถนนอีกเส้นหนึ่ง ซึ่งสามารถสัญจรได้รอบหมู่บ้าน จึงอยากให้ดำเนินการให้ถูกต้อง
ขณะที่นายประเทือง บุญสิทธิ์ นายช่างโยธาชำนาญงาน อบต.แสลงพัน ชี้แจงว่า กรณีที่ชาวบ้านร้องเรียนสร้างถนนคอนกรีตไม่ตรงตามแบบนั้น เนื่องจากส่วน 25 เมตรไม่สามารถดำเนินการได้ตามแบบเพราะเจ้าของที่นา อ้างว่าเป็นที่ดินที่เขาครอบครองก็ข่มขู่ว่าหากทำจะเอาเรื่อง ส่วนที่ทำแยกออกไปอีกฝั่งเป็นทางผู้รับเหมาดำเนินการเองเจ้าหน้าที่ไม่ทราบ แต่ก็จะนำเรื่องผู้บริหาร อบต.เพื่อดำเนินการให้ถูกต้อง ส่วนที่มีการบุกรุกทางสาธารณะ ก็จะประสานที่ดินมารังวัดแนวเขตให้ชัดเจน หากมีการบุกรุกก็จะต้องแจ้งความตามกฎหมาย ซึ่งขณะที่ชาวบ้านกำลังร้องเรียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการก่อสร้างถนนคอนกรีต ที่ไม่ตรงตามแบบ นายหิรัญ ไชยกันยา ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กบ้านบุขี้เหล็กดังกล่าวเช่นกัน โดย ผอ.ป.ป.ช. ระบุว่า ได้รับเบาะแสจากเฟสบุ๊กของ ป.ป.ช.ภาค 3 ว่ามีการก่อสร้างถนนไม่เป็นไปตามแบบ ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบก็พบว่ามีการก่อสร้างผิดแบบจริง ซึ่งนายช่าง อบต.ก็ชี้แจงว่าอยู่ระหว่างรังวัดสอบเขตทางสาธารณะ หากมีการดำเนินการแล้วเสร็จก็จะสร้างเต็มพื้นที่ตามแบบ ซึ่งในส่วนที่ก่อสร้างไม่เป็นไปตามแบบก็ต้องดูว่าใครเป็นคนสั่งให้ทำ และทำโดยชอบหรือไม่ ซึ่งผู้รับจ้างก็มีหน้าที่ทำตามแบบ และเจ้าหน้าที่ที่คุมงานก็ต้องคุมงานให้เป็นไปตามแบบโดยชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน
ส่วนกรณีที่มีการแจ้งเบาะแสว่ามีการบุกรุกทางสาธารณะนั้น เจ้าหน้าที่ก็ชี้แจงว่าอยู่ระหว่างทำการังวัดสอบเขต ซึ่งกรณีนี้ก็พิสูจน์ไม่ยากสามารถตรวจสอบจากภาพถ่ายทางอากาศ และหากสภาอนุมัติงบดำเนินการแล้ว ก็เชื่อว่าน่าจะมีการตรวจสอบแล้ว ซึ่งก็ได้แนะนำให้ อบต.ดำเนินการให้เป็นไปตามแบบ ส่วนกรณีการรุกที่สาธารณะทาง อบต.ก็ต้องแจ้งความกับเจ้าของที่ แต่ยังไม่มีการร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช. เป็นเพียงการแจ้งเบาะแส แต่ก็กำชับให้ดำเนินการให้ถูกต้อง เพราะหากทำไม่ถูกต้องก็มีความผิดตามกฎหมาย