ชาวเน็ต จวกยับเน็ตไอดอลสาว แต่งหวิวสั้นเสมอหู และโชว์เนินอก ถ่ายรูปหน้าอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 1 ที่บุรีรัมย์ โพสต์ลงโซเชียล ก่อนจะลงโพสต์และขอโทษอ้างไม่ได้มีเจตนาเหยียดหยาม แต่คนบุรีรัมย์รับไม่ได้ ขณะ ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ได้ติดตามตัวมาแจ้งข้อหาและดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
(25 มี.ค.67) กลายเป็นประเด็นร้อน หลังจากที่มีเน็ตไอดอลสาวรายหนึ่ง โพสต์ภาพแต่งตัววาบหวิวในลักษณะสั้นเสมอหู และโชว์เนินอก ยืนถ่ายรูปหน้า อนุสาวรีย์รัชกาลที่ 1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ภายใน จ.บุรีรัมย์ พร้อมเขียนข้อความกำกับว่า “โปรดมาเที่ยวเมืองของฉัน” จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม ก่อนที่ในเวลาต่อมาหญิงคนดังกล่าวหรือ “พิม” จะโพสต์ข้อความขอโทษพร้อมระบุว่า “พิมขอโทษคนบุรีรัมย์กับการกระทำครั้งนี้ ที่ทำให้ทุกคนไม่สบายใจ ขอโทษที่มองข้ามความรู้สึกแรงศรัทธาของทุกคนที่รู้สึกไม่ดีกับการกระทำของพิมในครั้ง พิมนี้ยากขอโทษพี่น้องชาวบุรีรัมย์และทุกคนที่มีแรงศรัทธา พิมไม่ได้มีเจตนาเหยียดหยามหรือด้อยค่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พิมเพียงแต่รู้สึกว่าสถานที่นี้ สวยงามและเป็นเสมือนแลนด์มาร์คประจำจังหวัดบุรีรัมย์ตัว พิมเองพอมีผู้ติดตามอยู่บ้าง จึงมีเพียงเจตนาเดียวคืออยากให้ทุกคนรู้สึกจังหวัดเรามากยิ่งขึ้น และมาเที่ยวจังหวัดเรามากขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่พิมกล่าวมาอาจดูเห็นแก่ตัว แต่พิมรู้สึกผิดที่สุดจากใจ ขอโทษหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และพิมจะเก็บบทเรียนในครั้งนี้เป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตขอโทษคนที่ติดตาม แล้วทำให้ผิดหวัง ขอโทษจริง ๆ รู้สึกผิด” อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่าต้นโพสต์ดังกล่าว ถูกลบออกไปแล้ว
ล่าสุด ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้ติดตามนำตัวเน็ตไอดอลคนดังกล่าวที่โพสต์ภาพในลักษณะไม่เหมาะสม มาดำเนินคดีแล้ว ในข้อหา”นำข้อมูลลามกเขาสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมุลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจะเข้าถึงได้ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหา ผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือย หรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น ระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท ซึ่งเบื้องต้นก็ได้แจ้งข้อหา พร้อมตักเตือนและเปรียบเทียบปรับแล้ว
ขณะที่นายวิวัฒน์ โรจนาวรรณ อายุ 75 ปี ประชาชนชาวบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากภาพที่เห็นการกระทำดังกล่าวทีถ่ายรูปในลักษณะท่าทางหวาบหวิวไม่เหมาะสม ต่อหน้าอนุสาวรีย์ของบุคคลสำคัญของประเทศ แล้วนำไปโพสต์ ถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และถึงแม้ผู้โพสต์ก็ไปกราบขอขมาพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 1 แล้ว ส่วนตัวก็คิดว่าได้กระทำไปแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่บ้านเมืองว่าจะตีความแบบไหนและจะดำเนินการอย่างไร การที่ถ่ายภาพไปเผยแพร่ ถือว่ามีเจตนาที่จะเผยแพร่ต่อสายตาคนอื่น หรือต่อสาธารณชน และแม้จะมีการมาขอโทษในภายหลัง แต่ในฐานะผู้ดูแลเรื่อง Facebook เรื่องการเผยแพร่ต่างๆ ในออนไลน์ เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีหน้าที่ดูแลเรื่องนี้ต้องพิจารณาว่า ควรจะลงโทษหรือไม่อย่างไร ถ้าลงโทษจะลงโทษขนาดไหน ก็ต้องไปพิจารณา
ส่วนตัวในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ก็เห็นว่าเป็นการแสดงเสรีภาพที่เกินเลย ถ้าคุณถ่ายภาพแบบนี้แล้วคุณเก็บไว้ดูตัวเอง คนอื่นเขาก็ไม่เห็นเขาก็ไม่รู้เห็นด้วย เขาก็คงไม่มาตำหนิติเตียนอะไร ถ้าจะเก็บไว้ดูเอง ถ้าถามว่าผิดในข้อหาอนาจาร หรือเรื่องอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกันหรือไม่ ก็ต้องถือว่าผิด เพราะว่าการกระทำนั้นสำเร็จเรียบร้อยไปแล้ว