ข่าวสังคม

นครพนม ลั่นระฆังร้องทุกข์กลุ่มลูกหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนม ร้องศูนย์ดำรงธรรม

วันที่ 23 เมษายน 2567 เวลา 10.00 น.ที่ศาลากลางจังหวัดนครพนม กลุ่มพัฒนาสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนม พร้อมสมาชิกกว่า 100 คน ไปตีระฆังยื่นหนังสือ ร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรม มีนางเอมอร อุ่นคำ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดนครพนม เป็นผู้รับเรื่อง โดยนายเอกชัย คะษาวงค์ ประธานกลุ่ม นายเศรษฐการ จันทร์ดาประดิษฐ์ พร้อมแกนนำ เรียกร้องให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนมลดดอกเบี้ยลงเหลือร้อยละ 4.75 เร่งรัด แก้ปัญหาให้สมาชิกสามารถหักเงินชำระหนี้แล้วยังมีเงินคงเหลือเพื่อดำรงชีพไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 และตรวจสอบการดำเนินการของสหกรณ์ให้โปร่งใสเป็นไปเพื่อประโยชน์ของมวลสมาชิก ครูผู้เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนม คณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนม ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดนครพนมทั้ง 3 เขต สหกรณ์จังหวัดนครพนม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครพนมทั้ง 4 ท่าน และพี่น้องประชาชน สื่อมวลชนทั้งหลาย

กลุ่มพัฒนาสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนม โดยสมาชิกผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการบริหารงานโดยไม่คำนึงถึงเจตนารมย์การสหกรณ์ ของคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนมทีผ่านมา ทำให้สมาชิกได้รับความเดือดร้อนจากการมุ่งแสวงหาผลกำไรจากอัตราดอกเบี้ยที่สูง (ปัจจุบันร้อยละ 6.60 บาทต่อปี) ซึ่งสูงกว่าสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดอื่นและยังสูงกว่าดอกเบี้ยนโยบายที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้กำหนดไว้ที่อัตราร้อยละ 4.75บาทต่อปี ทำให้สมาชิกที่มีภาระหนี้กับสหกรณ์ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส และมีสมาชิกจำนวนมากกว่า 400 คน มูลหนี้มากกว่า 1,200 ล้านบาท ไม่สามารถหักชำระหนี้รายเดือนแล้วยังมีเงินเหลือเพื่อใช้ดำรงชีพ(เงินเดือนเหลือไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ประจำเดือนมีนาคม 2567 ได้ และหากไม่สามารถหักชำระหนี้ได้ต่อเนื่องไปก็จะเป็นหนี้เสียเป็นภาวะวิกฤติที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงทั้งต่อสมาชิกและภาพรวมของสหกรณ์จนไม่อาจจะเยียวยาแก้ไขได้ทันเวลา และมีข้อสงสัยต่อการบริหารจัดการของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนมว่ามีความสุจริตโปร่งใสเป็นไปเพื่อประโยชน์ของสมาชิกหรือไม่ในประเด็นต่อไปนี้ คือ

มีการจ้างผู้จัดการซึ่งมีอายุ 72 ปี และมีค่าจ้างรายเดือนและค่าตอบแทนอื่นรวมกันสูงกว่า 200,000 บาท โดยไม่เป็นไปตามข้อบังคับและไม่เป็นหลักการบริหารจัดการองค์กรอย่างมี ประสิทธิภาพหรือไม่ มีการเลือกตั้งผู้แทนสมาชิกโดยไม่สุจริตเพื่อครอบงำและรักษาอำนาจการบริหารจัดการสหกรณ์ โดยจัดให้การให้หมุนเวียนกันเป็นผู้แทนสมาชิกในแต่ละหน่วย โดยสมัครเป็นตัวแทนให้พอดีกับจำนวนผู้แทนสมาชิก ไม่มีการดำเนินการจัดการเลือกตั้งตามกระบวนการประชาธิปไตยและหลักการสหกรณ์ และเมื่อได้ตัวแทนสมาชิกแล้วมีการให้สินจ้างตอบแทนจูงใจ ให้ผู้แทนสมาชิกลงคะแนนการเลือกคณะกรรมการและการรับรองงบดุลประจำปี ใช่หรือไม่ มีการเลือกตั้งคณะกรรมการสหกรณ์ และผู้ตรวจสอบกิจการเป็นอย่างไม่สุจริตตามหลักการประชาธิปไตยและหลักการสหกรณ์ โดยในรอบ ๓0 ปีที่ผ่านมามีผู้สมัครพอดีกับจำนวนคณะกรรมกรรมการเกือบทุกปีโดย มีการให้สินจ้างตอบแทนให้ผู้แทนสมาชิกยกมือเพื่อมีมติรับรองโดยไม่มีการเสนอนโยบายพัฒนาสหกรณ์ ไม่มีผู้เสนอตัวเข้าแข่งเพื่อสมัครรับเลือกตั้ง และมีลักษณะการครอบงำกิจการสหกรณ์แบบเบ็ดเสร็จโดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นกรรมการ ที่ปรึกษา ผู้ตรวจสอบกิจการ ผู้ตรวจสอบภายใน อยู่ในคนกลุ่มเดิม ใช่หรือไม่ และมีการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยไม่ยึดระเบียบราชการโดยอนุโลม เจตนาไม่ปรับปรุงแก้ไขระเบียบสหกรณ์ว่าด้วยการพัสดุให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดช่องว่างในการทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างในสหกรณ์ มีการจัดซื้อจัดจ้างวัสดุอุปกรณ์ที่ราคาแพงเกินราคาท้องตลาดและราคากลาง จัดซื้อจัดจ้างที่ไม่ใช่ภารกิจโดยตรงของสหกรณ์ และไม่มีความจำเป็นต้องใช้ ไม่มีการกำหนดคุณลักษณะพัสดุที่จะจัดซื้อ ไม่มีการจัดทำร่างขอบเขตของงานและภาระ งานที่สหกรณ์ต้องการ(TOR : Term Of Reference)ทำให้เกิดการเอื้อประโยชน์ ทุจริต ขาดประสิทธิภาพ ในหลายรายการ เช่น ค่าบำรุงรักษาศูนย์ประชุมหนองบึก การจัดซื้อจัดจ้างเกี่ยวกับระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต จัดซื้อคอมพิวเตอร์ เชิร์ฟเวอร์ จัดซื้อจัดจ้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จัดซื้อจัดจ้างและดูแลเครื่องปรับสมุดคู่ฝาก และการจัดซื้อจัดจ้างอื่นๆ ในตลอดระยะเวลาหลายปีบัญชีที่ผ่านมา ใช่หรือไม่ จากความเดือดร้อนของมวลสมาชิกที่กล่าวมาข้างต้น กลุ่มพัฒนาสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนม จึงขอเรียกร้องต่อสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องผู้ซึ่งสามารถจะตรวจสอบและดำเนินการให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนมแก้ไขความเดือดร้อนให้แก่มวลสมาชิก คือเรียกร้องต่อคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนม ให้ลดดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทจากร้อยละ 6.60 บาทต่อปี เป็นร้อยละ 4.75 บาทต่อปี โดยเร็วและไม่มีเงื่อนไข ให้แก้ไขปัญหาการหักเงินให้เหลือพอใช้ดำรงชีพ ร้อยละ 30 โดยออกระเบียบสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนม ว่าด้วยโครงการจัดการหนี้รายบุคคล และร่วมมือกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้สมาชิกมีเงินเดือนเหลือพอใช้ดำรงชีพ ร้อยละ 30 อย่างแท้จริง โดยไม่ต้องให้สมาชิกนำเงินส่วนที่เหลือร้อยละ 30 ไปส่งให้แก่เจ้าหนี้เดิมที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครพนมเคยหักชำระหนี้ให้ด้วยตนเอง ให้คณะกรรมการสหกรณ์เปิดประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการค้างชำระเงินของสมาชิก และการปรับปรุงแก้ไขข้อบังคับและระเบียบ และเรื่องอื่นๆที่จำเป็น โดยเปิดโอกาสให้สมาชิกและผู้แทนสมาชิกเข้าประชุมอย่างอิสระโดยเร็ว และยังมีข้อเรียกร้องต่อผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครพนม ทั้ง 3 เขตเรียกร้องขอให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครพนมทั้ง 3 เขต ร่วมมือกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนมดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มีเงินเดือนเหลือพอใช้ดำรงชีพ ร้อยละ 30 อย่างแท้จริง โดยไม่ต้องให้สมาชิกนำเงินส่วนที่เหลือร้อยละ 30 ไปชำระหนี้ด้วยตนเองอีก เรียกร้องขอเรียกร้องให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครพนมทั้ง 3 เขต งดหักเงินเดือน เงินบำนาญหรือเงินได้รายเดือนอื่นใดของข้าราชการครู ที่รวมทุกรายการหักแล้ว มีผลให้เงินคงเหลือน้อยกว่าร้อยละ 30 โดยเด็ดขาด และกลุ่มพัฒนาสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนม ขอสงวนสิทธิ์ในการฟ้องร้องดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลปกครองกลาง และ ระเบียกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการหักเงินเดือนเงินบำเหน็จบำนาญเพื่อชำระหนี้ฯ หากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหักเงินเงินเดือน เงินบำนาญ แล้วมีผลให้สมาชิกกลุ่มพัฒนาสหกรณ์ออมทรัพย์ครูได้รับความเดือดร้อน
และเรียกร้องขอให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครพนมทั้ง 3 เขต ตรวจสอบ กำกับ ติดตาม การดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนม ในเรื่องที่เป็นข้อสงสัยทั้ง 4 ประเด็น ในฐานะที่สหกรณ์เป็นหน่วยงานที่ดำเนินงานด้านสวัสดิการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อการดำเนินงานมีความสุจริตโปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นไปเพื่อประโยชน์ของสมาชิกที่เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พร้อมกันนั้นจะยื่นเรื่องข้อเรียกร้องต่อสหกรณ์จังหวัดนครพนม และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.นครพนม) ทั้ง 4 ท่าน

ขอให้เร่งรัดให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนม ลดดอกเบี้ยเงินกู้ของสมาชิกจากอัตราร้อยละ6.60 บาทต่อปี ลงให้เหลือ อัตราร้อยละ 4.75 บาทต่อปี ตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหกรณ์ออมทรัพย์ ที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เสนอไว้โดยเร็ว ทั้งนี้เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชนตามนโยบายรัฐบาลให้แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาด้วย ขอให้สหกรณ์จังหวัดในฐานะรองนายทะเบียนสหกรณ์ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) จังหวัดนครพนม ตรวจสอบ กำกับ ติดตาม การดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนม ในเรื่องที่เป็นข้อสงสัยทั้ง ๔ ประเด็น ในฐานะที่สหกรณ์เป็นหน่วยงานที่ดำเนินงานด้านสวัสดิการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อการดำเนินงานมีความสุจริตโปร่งใส เป็นไปเพื่อประโยชน์ ของสมาชิกที่เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กลุ่มพัฒนาสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนม ขอให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนม ตอบชี้แจงแนวทางการแก้ไขปัญหาและดำเนินการตามข้อเรียกร้องต่อคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ผ่านกลุ่ม Line official สอ.ครูนครพนม จำกัด และ Website หรือสื่อมวลชน สื่อ Online อื่นของสหกรณ์ ภายในเดือนเมษายน 2567 เวลาทำการ เพื่อให้สมาชิกกลุ่มได้ดำเนินขับเคลื่อนให้เป็นไปตามความมุ่งหมายในข้อเรียกร้องแต่ถ้ายังไม่มีคำตอบก็จะไปยื่นเรื่องที่ ป.ป.ช.ต่อไป

ด้าน ดร.พิชิต โกพล รองประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ตัวแทนสหกรณ์ กล่าวถึงประเด็นที่มีการจ้างผู้บริหารอายุ 70 กว่าปี มาทำงานก็ทำตาม ระเบียบข้อบังคับ ส่วนที่มีการร้องเรียนนั้นทางผู้บริหารสหกรณ์ไม่ได้นิ่งนอนใจพยายามแก้ไขอยู่ เรื่องลดดอกเบี้ย หรือเรื่องลดหนี้ครู

ทางนายไชวุฒิ รัชเรนสุนทรี นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม ได้ชี้แจงว่า หลังจากรับเรื่องราวร้องทุกข์แล้ว ก็จะได้นำเสนอต่อผู้บังคับบัญชา เพราะศูนย์ดำรงธรรมเป็นหน่วยงานที่คอยประสานช่วยเหลือการสอบสวนความเดือดร้อนและนำเสนอต่อผู้บังคับบัญชา คือผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมต่อไป