ข่าวสังคม

ขอนแก่น เกษตรกรชาวอำเภอซำสูง ปลื้มมีรายได้เพิ่มขึ้นหลังเข้าร่วมโครงการต้นแบบปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จังหวัดขอนแก่น

วันที่ 11 พ.ค. 2566 นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ เลขาธิการมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ติดตามและให้กำลังใจเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการต้นแบบปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จังหวัดขอนแก่น ปี 2565/2566 ในการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยมีนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น,นายธงชัย มูลคำศรี เกษตรจังหวัดขอนแก่น,ผู้แทนจากบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด หรือ ซีพีพี พร้อมด้วย ส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ และเกษตรกรในพื้นที่ให้ความสนใจเข้าร่วมติดตามและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจำนวนมาก ณ แปลงปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของนางสุมาลี ไชยเดช บ้านหนองบัวคำมูล ต.คูคำ อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น

นายธงชัย มูลคำศรี เกษตรจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า หลังจากที่สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ได้ร่วมกับบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด และสำนักงานเกษตรฯ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ส่งเสริมเกษตรกรปลูกข้าวโพดสำหรับเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นพืชทางเลือกใหม่ อายุสั้น โดยเฉพาะใช้น้ำน้อย ผลผลิตสูง มีการรับรองราคาขั้นต่ำและแหล่งรับซื้อจัดเจน เพื่อเป็นการสร้างรายได้และช่วยเหลือเกษตรกรในหลายพื้นที่ โดยจังหวัดขอนแก่น ได้ดำเนินโครงการต้นแบบปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ 11อำเภอ จำนวน 138 ราย พื้นที่ 855.50 ไร่ โดยฤดูกาลผลิตปีนี้ เริ่มเก็บเกี่ยว ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2566 เป็นต้นมา

ด้านนางสุมาลี ไชยเดช เกษตรกรบ้านหนองบัวคำมูล ต.คูคำ อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น ที่เข้าร่วมโครงการต้นแบบปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กล่าวว่า ตนเองได้เข้าร่วมโครงการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กับสถาบันปิดทองหลังพระ เป็นปีแรก โดยใช้ที่นาประมาณ 19 ไร่ เป็นพื้นที่เพาะปลูก เดิมที่นาแปลงนี้ได้ใช้เป็นพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังหลังการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี ก่อนที่จะมาร่วมโครงการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ แต่ก็ประสบกับปัญหาเรื่องรายได้จากการขายข้าวนาปรัง เพราะไม่มีผลกำไรจากการเพาะปลูก บางปีลงทุนมากแต่ก็ได้ผลผลิตน้อย ไม่คุ้มค่า

กระทั้งเกษตรอำเภอซำสูง ได้เข้ามาแนะนำว่ามีโครงการดีๆ จากมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรทดลองปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุน ทั้งในด้านองค์ความรู้ เงินทุน และเครื่องไม้เครื่องมือในการเพาะปลูก ตนเองจึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการฯ เนื่องจากเห็นว่า จะเป็นการสร้างรายได้หลังการเก็บเกี่ยวข้าวนาปีได้มากขึ้น เพราะปลูกง่าย ดูแลง่าย ใช้น้ำน้อย อายุสั้นเก็บเกี่ยวผลผลิต ที่สำคัญราคารับซื้อแน่นอนและรับซื้อเป็นจำนวนมาก ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จึงได้ผลคุ้มค่ากว่าปลูกพืชชนิดอื่น ประกอบกับเป็นช่วงที่กำลังมองหาพืชมาเพาะปลูกเพิ่มรายได้ จึงลองเปลี่ยน”

นางสุมาลี กล่าวอีกว่า ก่อนที่จะตัดสินใจเข้าร่วมโครงการฯ ก็มีโอกาสได้ไปศึกษาดูงานจากกลุ่มเกษตรกรที่ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ทำให้ทราบว่า การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตามโครงการนี้ สามารถสร้างรายได้มากกว่าการปลูกพืชชนิดอื่นๆ โดยหลังจากการเข้าร่วมโครงการก็ทำให้สถานะทางการเงินของครอบครัวดีขึ้น สามารถมีเงินส่งลูกเรียนหนังสือในระดับที่สูงขึ้นได้ ซึ่งการเก็บเกี่ยวผลผลิตในครั้งนี้ ตนเองมีรายได้จากการขายผลผลิตเป็นเงินกว่า 120,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่มากกว่าการขายข้าวนาปรังในแต่ละปี ในอนาคตจะขยายพื้นที่เพาะปลุกเพิ่มแน่นอน เพราะขณะนี้มีองค์ความรู้และทราบขั้นตอนจากการเพาะปลูกในปีนี้แล้ว ในฤดูการเพาะปลุกหน้าก็จะหันมาปลูกเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน