ข่าวสังคม

รอง ผวจ.ขอนแก่น DSI ป.ป.ช. ตรวจสอบสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย ทุจริตเงินที่ชาวบ้านฝากไว้กับสหกรณ์ฯ มูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท ลั่นเอาผิดผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ถึงกับต้องแช่งที่สหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น มีกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ อ.เปือยน้อย ที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์ฯ กว่า 100 คน หลังเดินทางมาติดตามทวงถามความคืบหน้าและขอความชัดเจนจากทางสหกรณ์ฯ หลังจากที่ชาวบ้านตรวจสอบพบความผิดปกติที่เกิดขึ้นหลายกรณี เช่น เงินที่ฝากกับสหกรณ์ฯ หายจากบัญชี ไม่สามารถถอนเงินกับทางสหกรณ์ได้ บางรายได้ทำการปิดยอดหนี้เงินกู้ไปแล้ว แต่กลับพบว่า มีหนี้ใหม่เข้ามาทั้งที่ไม่ได้กู้เป็นเงินหลักแสนบาท ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มชาวบ้านได้มีการติดตามทวงถามเรื่องนี้กับทางสหกรณ์ฯ แต่ก็ไม่ได้รับความชัดเจน เนื่องจากมีการบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด

ในการมาติดตามครั้งนี้มี นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยนายอำเภอเปือยน้อย ผู้กำกับการ สภ.เปือยน้อย เจ้าหน้าที่ DSI เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่สหกรณ์จังหวัดขอนแก่น และกลุ่มชาวบ้านที่เป็นผู้เสียหาย ได้ร่วมกันประชุมติดตามกรณีที่เกิดขึ้น โดยได้มีการเชิญ นายสมศักดิ์ แก้วอาสา ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย เข้ามาให้รายละเอียดและตอบข้อสงสัยของเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ซึ่งในวงประชุมฯ นายสมศักดิ์ ยอมรับในวงประชุมว่า มีการบริหารงานสหกรณ์ขาดทุนและขาดสภาพคล่องจริง ซึ่งในประเด็นที่ชาวบ้านสงสัยเรื่องยอดหนี้ที่เกิดขึ้นทั้งที่ไม่ได้กู้เงิน ได้บอกกับชาวบ้านขอเวลาในการตรวจสอบอย่างละเอียด รวมทั้งจะหากู้เงินจากสถาบันทางการเงินมาคืนให้กับชาวบ้านที่เป็นสมาชิกฯ

น.ส.รัตติยากร นาทองถม หลานสาวของนางหนูพิน ศรีจันทร์ ชาวบ้านโคกสว่าง อ.เปือยน้อย ซึ่งหนึ่งในผู้สียหาย ได้นำใบเสร็จรับเงิน การปิดยอดชำระหนี้สหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย จังหวัดขอนแก่น จำนวน 26,898.98 บาท ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 มายื่นต่อเจ้าที่ตรวจสอบบัญชี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจาก ตรวจสอบพบว่า มีหนี้สินที่ยังคงติดค้างสหกรณ์ ถึง 260,000 บาท ทั้งที่ชำระหนี้ไปจนหมดแล้ว ทำให้กังวลว่า จะต้องชดใช้หนี้โดยไม่ได้ก่อ และเกิดความไม่เชื่อมั่นในสหกรณ์ฯ เพราะเชื่อว่านอกจากตนเองที่ต้องพบกับปัญหาการเป็นหนี้โดยไม่ได้กู้แล้ว อาจจะมีชาวบ้านรายอื่น ๆ ตกเป็นหนี้ในแบบเดียวกันกับตนเองอีกหรือไม่ หลังจากเกิดเรื่อง จึงได้เข้าตรวจสอบบัญชี กระทั่งพบความผิดปกติ

ด้านนายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวในที่ประชุมตอนหนึ่งว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นและสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านมาตั้งแต่ปี 2559 แต่ผู้บริหารของสหกรณ์ฯ กลับไม่มีการดำเนินการใด ๆ พากันนิ่งเฉยกับเรื่องที่เกิดขึ้น จนทำให้เรื่องบานปลาย สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านมาจนถึงวันนี้ จากการฟังคำชี้แจงของประธานสหกรณ์ฯ ผู้จัดการสหกรณ์ฯ ในวันนี้อยากถามแทนชาวบ้านว่า สิ่งที่ทางสหกรณ์จะแก้ไขให้กับชาวบ้าน คือ การไปกู้เงินกับสถาบันทางการเงิน แล้วถ้าหากกู้ไม่ได้จะทำอย่างไร ชาวบ้านจะทำอย่างไร ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผู้บริหารสหกรณ์ทำอะไรกันอยู่จึงปล่อยให้เกิดความเสียหายขนาดนี้ขึ้นได้ ซึ่งเรื่องนี้ตนเองจะติดตามอย่างใกล้ชิด และขอสาปแช่งคนที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตครั้งนี้ขอให้วิบัติทั้งครอบครัว  

อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบรายละเอียดเรื่องนี้อย่างละเอียดและรอบครอบในทุกประเด็น โดยเฉพาะการขยายผลหาตัวผู้ร่วมกระทำผิดทั้งหมด มาดำเนินคดี เนื่องจากปัจจุบัน มีผู้รับสารภาพเพียง 1 คน แต่ตามหลักกระบวนการทำธุรกรรมใด ๆ ไม่สามารถกระทำได้เพียงคนเดียว อีกทั้งสหกรณ์ฯ ยังบริหารงานขาดทุน มานานกว่า 7 ปี และยังขาดสภาพคล่องทางการเงินจนทำให้ไม่มีเงินสำรองมาจ่ายให้กับชาวบ้านได้ โดยเบื้องต้นได้ให้ชาวบ้านแต่ละคนนำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เปือยน้อย ส่วนการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้รายงานตความคืบหน้าภายในวันที่ 25 พ.ค.นี้ เพื่อชี้แจงกับชาวบ้าน นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ตรวจสอบสหกรณ์ทั้งจังหวัด อีก 189 แห่ง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับสมาชิก เช่นเดียวกับที่สหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย ซึ่งล่าสุดมีผู้ลงชื่อและยื่นหลักฐานในการถูกยักยอกทรัพย์แล้วกว่า 60 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท

ภายหลังการประชุมร่วมกันกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งได้ข้อสรุปเป็นที่ชัดเจน ทำให้กลุ่มชาวบ้านพอใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่ทางจังหวัดและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่มาติดตามตรวจสอบ และมีการตั้งคณะกรรมขึ้นมาสอบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียดทุกขั้นตอน ชาวบ้านจึงพากันเดินทางกลับ และจะติดตามความคืบหน้าอีกครั้งในสัปดาห์หน้า