ข่าวสังคม

พ่อเมืองน้ำดำ นำส่วนราชการ แถลงผลงาน 1 ปี สานงานต่อก่องานใหม่เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นำทีมส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการดำเนินงานในรอบ 1 ปี ต่อสื่อมวลชน พร้อม“สานงานต่อ ก่องานใหม่” เดินหน้าจัดกิจกรรม เดิน กิน ชม เที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจทั้งจังหวัด หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID – 19 เริ่มคลี่คลาย

ที่ห้องประชุมดอกเกด โรงแรมริมปาว จ.กาฬสินธุ์ นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายธวัชชัย รอดงาม ปลัด จ.กาฬสินธุ์ นายจารุวัฒน์ บุญเพิ่ม นายกเทศมนตรีเมืองกาฬสินธุ์  นำทีมหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการดำเนินงานในรอบ 1 ปี ต่อสื่อมวลชน เพื่อ “สานงานต่อ ก่องานใหม่” ตามโครงการประชาสัมพันธ์นโยบายรัฐบาลและยุทธศาสตร์การพัฒนา จ.กาฬสินธุ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ที่สำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.กาฬสินธุ์ จัดขึ้น โดยมีสื่อมวลชนทุกแขนง เข้าร่วมรับฟัง

นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์  กล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562  ที่ตนได้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ คนที่ 54 ตลอดระยะเวลาการทำงาน ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ร่วมแรงร่วมใจ เพื่อพัฒนา ไปด้วยกัน ตามแนวทาง WE ARE KALASIN “ฉับพลัน ทันที มีประสิทธิภาพ” โดยได้สานต่อนโยบายที่วางเอาไว้ เพื่อเสริมให้งานมีประสิทธิภาพ สร้างประโยชน์กับพี่น้องประชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์  ซึ่งที่ผ่านมาผลการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จชัดเจนอย่างเป็นรูปธรรมหลายด้าน เช่น โครงการ Kalasin Happiness Model: คนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ที่มีเป้าหมายดำเนินงานตั้งแต่ปี2561 – 2564 โดยได้กำหนดเป็นวาระสำคัญของจังหวัด เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงาน ทำให้ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับรางวัลเลิศรัฐ 2 ปี ซ้อน โดยในปี 2563 ได้รับรางวัลดีเด่น สาขาการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม ร่วมใจแก้จน  นอกจากนี้ยังมีโครงการ Kalasin Green Market ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาด้านการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ เกิดการสร้างรายได้อย่างมั่นคง  ยุทธการฟ้าแดดสงยาง ระดมกวาดล้างยาเสพติดจังหวัดกาฬสินธุ์ระยะ 2  ที่ดำเนินการตามมาตรการหลัก 3 ด้าน คือ ป้องกัน ปราบปราม และบำบัดฟื้นฟู  โดยมีเป้าหมายที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมพวกเขาให้กลับมาเป็นคนดี มีคุณภาพ ไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก

นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า  ในภาวะวิกฤตของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ภารกิจที่สร้างความเชื่อมั่น และทำให้ผลการดำเนินงานในการยับยั้งการแพร่ระบาด ได้ผลเชิงประจักษ์ ก็คือ ปฏิบัติการสี่ทหารเสือยับยั้งการแพร่ระบาดโรค COVID-19 ที่ได้นำกลไกของ อสม.เคาะประตูบ้านมาใช้ในการดำเนินงานในพื้นที่ ทั้ง 18  อำเภอ นอกจากนี้ จากความเข้มแข็งของการนำบุคคลที่กลับจากพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ  เมื่อผ่านการกักกันตัวเป็นเวลา 14 วัน ในสถานที่ที่รัฐจัดให้ หรือ State Quarantine แล้ว จะต้องมารายงานตัวที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของการส่งกลับคนไทยจากต่างประเทศ

นายชัยธวัชกล่าวอีกว่า เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID – 19 ได้เริ่มคลี่คลาย ภาครัฐได้มีการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ เพื่อเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ ได้ร่วมกับ ทั้ง 18 อำเภอ จัดกิจกรรม เดิน กิน ชิม เที่ยว โดยได้ให้แต่ละอำเภอกำหนดสถานที่ที่มีอยู่แล้ว เช่น การจัดงานที่พระธาตุยาคู อ.กมลาไสย  งานตักบาตรถนนไดโนโรด อ.สหัสขันธ์ ถนนคนเดินตลาดต้นยาง อ.ยางตลาด ถนนคนเดินผาเสวย อ.สมเด็จ เป็นต้น  สำหรับในพื้นที่ของ จ.กาฬสินธุ์ ได้ร่วมกับอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ กำหนดใช้บริเวณตลาดชุมชนย่านเมืองเก่า เป็นสถานที่จัดกิจกรรม ซึ่งจะเริ่ม ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 เป็นต้นไป