ข่าวสังคม

นครพนม ชาวบ้านน้ำตาเล็ด หลังถูกน้ำเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตร เสียหายเกลี้ยง เร่งหาทุนดำนาใหม่หลังน้ำลด

วันที่ 15 ส.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านที่อาศัยบริเวณพื้นที่ บ.นาคำ ม.5 ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ที่ได้รับความเดือดร้อนจากกระแสน้ำที่ไหลมาจากห้วยกุดโดนจนเอ่อท่วมพื้นที่ทำกิน หลังเกิดฝนตกติดต่อกันนานกว่า 10 วัน และไหลระบายลงแม่น้ำโขงไม่ทัน จึงไหลบ่าล้นตลิ่งท่วมไร่นาสวนผสมของชาวบ้านบริเวณดังกล่าวและท่วมขังแช่อยู่นานกว่าสองสัปดาห์จนได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง

นายธนะสิทธิ์ มูลดี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 บ.นาคำ ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม เปิดเผยว่า ช่วงขณะที่เกิดน้ำท่วมตอนเหนือบริเวณ บ้านพุ่มแก บ้านต้องและอีกหลายพื้นที่ตอนบนก่อนที่น้ำจะมาถึงบ้านนาคำที่อยู่ปลายน้ำก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำโขง ทางการต้องหาทางเร่งระบายน้ำจึงได้นำเครื่องจักรกลเข้ามาทุบรื้อฝายกั้นน้ำแง่ม ซึ่งใช้กักเก็บน้ำไว้ใช้ในการเกษตรในหน้าแล้ง เพื่อเร่งระบายน้ำให้สามารถไหลลงแม่น้ำโขงได้เร็วขึ้น แต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนัก กระแสน้ำยังคงล้นตลิ่ง เนื่องจากมีปริมาณน้ำมากจากการที่เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันนานเป็นอาทิตย์ ทำให้น้ำท่วมขังพื้นที่ทำนาและพื้นที่ปลูกพืชสวนผสมเสียหายเป็นบริเวณกว้าง และด้วยสภาพทางกายภาพของลำห้วย ที่ไหลผ่านบริเวณบ้านนาคำ จะคดเคี้ยวและแคบ จึงไม่สามารถไหลระบายลงแม่น้ำโขงได้ทัน จึงล้นตลิ่ง กลายสภาพเป็นพื้นที่น้ำท่วมขังเกือบทั้งหมดและหลังจากน้ำลดแล้ว ยังกังวลอยู่ว่าฝายกั้นน้ำที่ถูกเจ้าหน้าที่ทุบออกไป จะได้รับการซ่อมแซมได้ทันก่อนที่ จะไม่เหลือน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้งที่จะใกล้เข้ามา แต่หากเป็นไปได้อยากให้สร้างเป็นประตูระบายน้ำจะได้สะดวกต่อการระบายน้ำในวันหน้า ต่อไป

นางสาวมณีวรรณ นคันทัง เกษตรกรท้ายฝายน้ำล้นห้วยเวิน ม.5 บ้านนาคำ ได้เล่าว่า ตนได้ทำไร่นาสวนผสม ปลูกมะพร้าว ต้นยางพารา ข้าวและมันสำปะหลัง บนพื้นที่ร่วม 10ไร่ ท้ายฝายแห่งนี้ ต่อมาเมื่อกระแสน้ำจากตอนบนไหลลงมาเป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็ว ประกอบกับห้วยตรงนี้ไหลอ้อมที่ดินของตนก่อนไหลต่อไปลงแม่น้ำโขง และระบายไม่ทันเนื่องจากน้ำมาเยอะและเร็วมาก จึงไหลบ่าผ่านเข้ามาในพื้นที่เพาะปลูกของตนทำให้พืชไร่ที่ปลูกไว้ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมดไม่เหลืออะไรเลย

แม้ว่าเวลานี้ระดับน้ำเริ่มกลับสู่สภาวะปกติบ้างแล้วก็ตาม แต่ในพื้นที่นาหลังน้ำลดชาวบ้านต้องเร่งปลูกข้าวเพื่อซ่อมแซมโดยเร็ว เพื่อให้ทันกับฤดูกาลเพาะปลูกปีนี้