ข่าวด่วน ข่าวอาชญากรรม

ชุดสืบเมืองกาฬสินธุ์รวบหนุ่มเผารถกู้ภัยเมตตาธรรมกาฬสินธุ์

ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ แกะรอยตามรวบหนุ่มวัย 25 ปี ก่อเหตุราดน้ำมันจุดไฟเผารถตัดถ่างกู้ภัยเมตตาธรรมกาฬสินธุ์เสียหายกว่า 1 ล้านบาท พบประวัติเคยก่อเหตุขับรถพุ่งชนสองสามีภรรยาขายอาหารตามสั่งข้าง ธกส.กาฬสินธุ์จนได้รับบาดเจ็บสาหัสมาแล้ว ขณะที่ญาติอ้างมีอาการทางประสาท เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น

                จากกรณีคนร้ายราดน้ำมันแล้วจุดไฟเผารถกระบะแวน 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ สีเหลือง ทะเบียน นข 4080 กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นรถที่ติดตั้งอุปกรณ์ตัดถ่าง ชุดไฟส่องสว่าง และเครื่องมือปฐมพยาบาลช่วยเหลืออุบัติเหตุและภัยพิบัติต่างๆของสมาคมเมตตาธรรมทิพยสถาน เต็กก่า จีโหงวเกาะ หรือหน่วยกู้ภัยเมตตาธรรมกาฬสินธุ์ ซึ่งจอดอยู่ที่จุดบริการอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ข้างสวนสาธารณะแก่งดอนกลาง เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เสียหายทั้งคัน เบื้องต้นความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท โดยเหตุเกิดช่วงประมาณ 21.30 น.ของวันที่ 6 มีนาคม 2564ที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กำชับให้ พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ สุริยะ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว

                ล่าสุด พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ สุริยะ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.เทวฤทธิ์ บูรณรักษ์ รอง ผกก.สส.ส.ภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.สีหนาท จันทร์เหลือง สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้คุมตัวนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี ชาว ต.กาฬสินธุ์  อ.เมืองกาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาก่อเหตุราดน้ำมันจุดเผารถตัดถ่างกู้ภัยไปชี้จุดเกิดเหตุ หลังชุดสืบสวนแกะรอยจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 7 เมษายน ที่ผ่านมา พร้อมของกลางรถจยย.ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสเต็ป  สีดำ มีตระแกรงด้านหน้า ไฟแช็คแก๊สสีแดง และฝาขวดนม ซึ่งผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า เป็นคนราดน้ำมันจุดไผเผารถตัดถ่างกู้ภัยจริง

                พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ สุริยะ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหายอมรับว่า เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2564 ได้ไปซื้อน้ำมันเบนชิน 91 มาจากปั้มนำมันแห่งหนึ่งในตัวเมืองกาฬสินธุ์ จำนวน 2 ลิตร โดยเอาถังพลาสติกบรรจุนมเมจิขนาด 5 ลิตรที่ซื้อมารับประทานเอง เมื่อหมดแล้วเก็บไว้ใช้ประโยชน์ไปบรรจุน้ำมัน เพื่อนำมาไว้เติมรถจักรยานยนต์ที่บ้านของผู้ต้องหา ต่อมาในเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2564 เวลาประมาณ 21.25 น. ได้เอาถังบรรจุน้ำมันดังกล่าว ใส่ที่บริเวณตระแกรงหน้ารถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสเต็ป  สีดำ มีตระแกรงด้านหน้าและนำไฟแช็คแก๊สสีแดงออกจากบ้าน พร้อมถังพลาสติกขนาด 5 ลิตร ฝาถังสีน้ำเงิน บรรจุน้ำมันเชื้อเพลิง และไฟแช็คแก๊สสีแดง จำนวน 1 อัน แล้วได้ขับขี่รถจักรยายนต์คันดังกล่าว ไปยังจุดกู้ภัยเมตตาธรรมจุดเมืองกาฬสินธุ์ บริเวณข้างสวนสาธารณะแก่งดอนกลาง แล้วได้จอดรถจักรยานยนต์ไว้ถนนทางด้านทิศเหนือข้าง แล้วได้ลงจากรถถือถังน้ำมันดังกล่าวเดินไปที่รถยนต์ตัดถ่างแล้วเทราดสาดใส่จุดไฟเผารถยนต์ แล้วก็ได้วิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป

พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามจากการสอบถามญาติ ซึ่งอ้างว่าผู้ที่ก่อเหตุมีอาการทางประสาท นอกจากนี้จาการตรวจสอบประวัติยังอีกพบว่าผู้ต้องหายังเคยก่อเหตุขับรถยนต์พุ่งชนสองสามีภรรยา ซึ่งขายอาหารตามสั่งข้างธนาคาร ธ.ก.ส.กาฬสินธุ์ จนได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2564ที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุผู้ต้องหาอ้างว่าช่วงระหว่างที่ขับรถชนพ่อค้าแม่ค้าที่ขายอาหารตามสั่งนั้น มีอาสาสมัครกู้ภัยเมตตาธรรมเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และช่วยกันจับผู้ต้องหาส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เกิดความไม่พอใจ จนมาเผารถกู้ภัยคันดังกล่าว ส่วนกรณีญาติอ้างว่ามีอาการทางประสาทเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสอบสวนต่อไปว่าป่วยมีอาการทางประสาท และมีใบรับรองแพทย์ยืนยันจริงหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าจริงก็จะดำเนินการตามขั้นตอนและส่งตัวไปรักษา แต่เบื้องต้นได้แจ้งแจ้งข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่นและนำตัวไปฝากขังต่อไป

ด้านนายเก่งกาจ บ้งกาวงศ์ กล่าวว่า สำหรับผู้ก่อเหตุนั้นอยากให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการบำบัดรักษา ซึ่งหากมีอาการป่วยจริงก็ต้องรักษาก่อนปล่อยตัวออกมา เพราะอาจจะมาก่อเหตุซ้ำอีก ในส่วนของรถตัดถ่างที่ถูกไฟไหม้นั้นขณะนี้ทางสมาคมฯก็ได้เปิดรับบริจาคและเตรียมทำผ้าป่าเพื่อฟื้นฟูให้กลับมาใช้งานในการปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือสังคมต่อไป