ข่าวอาชญากรรม

ปกครอง อ.เมืองนครพนม ตรวจยึดยาบ้า พร้อมจับผู้ต้องหา

เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566 นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอเมืองนครพนม นายเจตนา สายศรี ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง นายอภิวัฒน์ ภูมิผักแว่น ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานความมั่นคง ได้สั่งการให้ นายจักรพล เที่ยงภักดิ์ ปลัดอำเภอ, นายชัยเกียรติ ทุมรัตน์ ปลัดอำเภอ, พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอเมืองนครพนม ร่วมกับ หน่วยงานในพื้นที่ ร่วมกันจับกุม นางสาวอีฟ (นามสมมติ) อายุ 42 ปี สัญชาติไทย เพศหญิง ราษฎร บ้านโนนขาม ต.นาทราย อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม (ขอสงวนบ้านเลขที่) พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ลักษณะเม็ดกลมแบนด้านหนึ่งเรียบ ด้านหนึ่งมีอักษรภาษาอังกฤษ WY เม็ดสีแดง จำนวน 68 เม็ด และ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ลักษณะเม็ดกลมแบน ด้านหนึ่งมีอักษรภาษาอังกฤษ Y1 ด้านหนึ่งมีอักษรภาษาอังกฤษ A เม็ดสีเขียว จำนวน 1 เม็ด รวมยาบ้าทั้งหมด จำนวน 69 เม็ด (น้ำหนักชั่งรวมถุงประมาณ 7.2 กรัม) พร้อมด้วยหนังสือยินยอมตรวจปัสสาวะและหนังสือรับรองผลการตรวจหาสารเสพติดจาก รพ.นครพนม จำนวน 2 ฉบับ

โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยกระทำเพื่อการค้า เจ้าหน้าที่ฯเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิด จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยกระทำเพื่อการค้า” พร้อมกับแจ้งให้ผู้ถูกจับทราบสิทธิตามกฎหมาย และ ทำการจับกุม จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลาง มาที่กองร้อย อส.อ.เมืองนครพนม ที่ 3 เพื่อทำการสอบสวนขยายผล/บันทึกการจับกุม/ถ่ายภาพ/ตรวจนับยาบ้า ต่อหน้าผู้ถูกจับ ผลการตรวจนับ พบยาบ้าเม็ดสีแดง จำนวน 68 เม็ด และ ยาบ้าเม็ดสีเขียว จำนวน 1 เม็ด รวมยาบ้าทั้งหมด จำนวน 69 เม็ด สอบถามผู้ถูกจับว่าได้เสพยาบ้ามาก่อนหน้านี้หรือไม่ ผู้ถูกจับบอกกับ จนท.ว่า ตนไม่ได้เสพยาบ้ามาก่อนหน้านี้ จึงได้ขอตัวอย่างปัสสาวะผู้ถูกจับ เพื่อตรวจหาสารเสพติดเบื้องต้น โดยผู้ถูกจับสมัครใจยินยอมให้ตรวจ ผลการตรวจเบื้องต้น พบผลเป็นลบ จึงได้นำตัวอย่างน้ำปัสสาวะผู้ถูกจับ ส่งตรวจพิสูจน์ ทางวิทยาศาสตร์ที่ รพ.นครพนมเพื่อยืนยันผล ผลการตรวจ ไม่พบสารเสพติดชนิดเมทแอมเฟตามีนในน้ำปัสสาวะ จากนั้นจึงได้แจ้งสิทธิที่ผู้ถูกจับจะได้รับให้ผู้ถูกจับทราบอีกครั้งหนึ่ง และ นำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลาง ส่ง พงส.สภ.เมืองนครพนม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป