เจ้าของอู่ซ่อมรถสุดเซ็ง โดนคนร้ายย่องเข้าอู่ซ่อมรถยนต์ช่วงเย็นอาศัยเจ้าของอู่ไม่อยู่ ตัดกุญแจล็อคประตูเหล็ก ขโมยรถเก๋งที่ลูกค้านำเข้ามาซ่อมเครื่องเสร็จเตรียมส่งลูกหลบหนีหาย
วันที่ 20 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายศิริชัย พ่อค้า(เจ้าของอู่ซ่อมรถ)อายุ 46 ปี ที่อยู่ 29/2 หมู่ที่ 8 ต.ตั้งใจ อ.เมือง จ.สุรินทร์ โทรศัพท์ ว่าเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566 ได้จอดรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ชีวิค สีบรอนเงินหมายเลขทะเบียน กฉ 6344 (ซึ่งซ่อมเสร็จแล้ว)ไว้ที่อู่ช่างขาว เลขที่ 38/1 ถ.ทุ่งโพธิ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ โดยได้ถูกคนร้ายขโมยรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวออกไปอย่างใจเย็น โดยอาศัยจังหวะเมื่อเวลา 18.30 น.ของวันที่ 18 ต.ค. เจ้าของอู่ได้ออกไปธุระข้างนอก ซึ่งได้คลิปกล้องวงจรปิดจากถนนตรงข้ามสังเกตุเห็นว่า พบชายไทยสวมเสื้อแดงเดินออกมาจากภายในอู่มายืนหน้าประตูเหล็กสักพักก็เดินหายไปในอู่แล้วเดินกลับมาพร้อมกับตัดแม่กุญแจที่ล็อคไว้และเปิดประตูเหล็กออกพร้อมกับรอจังหวะเข้าไปขับรถเก๋งออกจากอู่เลี้ยวขวาไปเส้นทางถนนท่าสว่างซึ่งใช้เวลานานนับ 10 นาทีคนร้ายใจเย็นมาก ซึ่งนายศิริชัย พ่อค้า(เจ้าของอู่ซ่อมรถ) ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์และมอบคลิปกล้องวงจรปิดกับ พ.ต.ต.ณัฐวุฒิ สำเรียนรัมย์ สว.สืบสวน เพื่อให้เร่งติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดี
นายศิริชัย พ่อค้า (เจ้าของอู่ซ่อมรถ) กล่าวว่า เหตุเกิดที่ อู่ช่างขาว เลขที่ 38/1 ถ.ทุ่งโพธิ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม2566 เมื่อเวลา 18.30 น. ถูกคนร้ายบุกเข้ามาขโมยรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้าซีวิค สีบรอนเงินหมายเลขทะเบียน กฉ 6344(ซึ่งซ่อมเสร็จแล้ว) ออกจากอู่ซ่อมรถยนต์ของตนเองอย่างไร้ร่องรอย โดยคนร้ายได้เข้ามาภายในร้านจากด้านหลัง และเข้าไปรื้อค้นกุญแจรถที่ตนมักจะเก็บไว้ในตู้กับข้าว เพื่อให้ลูกน้องคนงานในอู่มาหยิบใช้ได้ และคนร้ายยังมารื้อค้นเอาลูกหมูไปเจียตัดแม่กุญแจ ที่คล้องล็อคประตูรั้วของอู่ได้อีก ตนเองก็มีความสงสัยว่าทำไมคนร้ายรายนี้รู้ที่เก็บซ่อนกุญแจรถได้ว่าอยู่ในตู้กับข้าว และรู้อีกว่า ป้ายทะเบียบรถถอดเก็บไว้ตรงไหน แต่ตนก็ยังไม่รู้ตัวว่าเป็นใคร เหตุครั้งนี้ทำให้ตนเองได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เพราะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายให้กับลูกค้าเจ้าของรถ ซึ่งมีมูลค่าราว 60,000 บาท ซึ่งเรื่องนี้ตนเองได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ในวันที่รถหายแล้ว แต่จนกระทั่งบัดนี้เวลาผ่านมาก็หลายวันแล้ว ยังไม่มีร่องรอยหรือเบาะแสที่จะติดตามรถยนต์คันนี้กลับมาได้เลย จึงวอนสื่อมวลชนเป็นกระบอกเสียงอีกทางและวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีพร้อมทั้งรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวมาคืนเจ้าของรถอีกด้วย