ข่าวอาชญากรรม

นครพนม ระทึก เกิดเหตุคนเมายา คลั่งใช้ด้ามเสียมทุบที่ศีรษะเด็กชายวัย 9 ขวบบาดเจ็บสาหัส พร้อมชาวบ้านอีก 2 ราย ตำรวจคุมตัวดำเนินคดี

วันที่ 30 พ.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 29 พ.ย.66 ร.ต.ท.พงษ์พัฒน์ อุดมทรัพย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.โพนสวรรค์ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ได้รับแจ้งและเข้าตรวจสอบกรณีผู้ก่อเหตุบุกทำร้ายเด็กและชาวบ้าน ในพื้นที่ บ้านหนองผักตบ หมู่ 4 ต.นาหัวบ่อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ที่เกิดเหตุอยู่ในภายวัดโพนสว่างภายในกุฏิพระส่วนผู้บาดเจ็บเป็นนักเรียนชาย วัย 9 ขวบ ชั้น ป.3 ถูกด้ามเสียมฟาดเข้าที่ศีรษะเป็นแผล กะโหลกร้าว เลือดคั่งในสมอง ผู้ปกครองรีบพาเด็กไปส่งโรงพยาบาลโพนสวรรค์ ก่อนถูกส่งตัวเข้าไปที่โรงพยาบาลจังหวัดนครพนมเพื่อผ่าตัดสมองอย่างเร่งด่วน

น้องเติ้ล เพื่อนเด็กชายที่บาดเจ็บ เล่าให้ฟัง ว่าตนกับเพื่อนๆ 3 – 4 คน เข้าไปเล่นในวัดโพนสว่างกับเณรที่รู้จัก สักพัก มีนายทศพร โยลัย หรือปลิว ผู้ก่อเหตุได้วิ่งเข้ามาพร้อมถือเสียมเข้ามาทำร้ายกลุ่มตนกลับเพื่อนๆ ได้พากันวิ่งหลบหนีแต่ น้องฟินหนีไม่ทันโดนด้ามเสียมฟาดเข้าไปที่ศีรษะประมาณ 3 ครั้ง ฟุบกับที่ในกุฏิพระ นายทศพรหรือปลิว ยังไม่หยุดคลั่งได้กลับไปที่บ้านเอามีดพร้า ไปทำร้ายชาวบ้านบริเวณใกล้วัดคือนายบุญมี ถูกมีดฟันเข้าที่แขนซ้ายตันเส้นเลือดใหญ่อาการสาหัสส่งโรงพยาบาลนครพนมรักษาตัว และยังได้ไปทำร้ายชาวบ้านอีกคนโดยใช้ไม้ฟาดเข้าที่แขนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่ชาวบ้านได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมารวบตัวนายปลิวไปที่สถานีตำรวจภูธรโพนสวรรค์ต่อไป

ตรวจสอบประวัติ พบว่า เคยถูกจับข้อหาเสพยา และนำตัวไปฝากขังที่ศาล เบื้องต้นแจ้งข้อหาพยายามฆ่าและเสพยาเสพติด ผู้อำนวยการโรงเรียน ยืนยันว่า โรงเรียนมีมาตรการป้องกันความปลอดภัย ปิดล็อกประตูทุกครั้งหลังนักเรียนเข้าโรงเรียน แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ ผู้ก่อเหตุปีนกำแพงเข้ามา จึงได้เรียกประชุมคณะกรรมการของโรงเรียนหาแนวทางป้องกันเหตุรุนแรงในโรงเรียนแล้ว จากนี้จะมีความเข้มงวดขึ้น ขณะที่ชาวบ้าน ผู้ปกครอง ยอมรับว่า รู้สึกกังวลและหวาดระแวงจน และต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลผู้เสพยาและก่อเหตุลักษณะนี้ต่อไป

เพื่อนบ้าน ยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุมีอาการเช่นนี้หลายครั้งแล้ว ก่อนไปก่อเหตุทำร้ายเด็กและชาวบ้านก็ได้ทุบทำลายข้าวของในบ้านเสียหาย เท่าที่เห็นผู้ก่อเหตุไปรักษาอาการหลายรอบ แต่ไม่คิดว่าจะมีเรื่องถึงขนาดนี้ จนชาวบ้านในชุมชนหวาดระแวง และต้องคอยหลบหนีเพื่อความปลอดภัย

ชาวบ้านหลายคนต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลผู้เสพยาอย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมา หลังเข้ารับการรักษาก็กลับมาก่อเหตุซ้ำอีก หรือผู้เสพบางราย มีอาการคลุ้มคลั่ง แจ้งตำรวจให้เข้ามาดูแล สุดท้ายจับไป แล้วก็ปล่อยตัวออกมา พฤติกรรมก็เหมือนเดิม จนชาวบ้านต้องอยู่อย่างวิตกกังวล