นักธุรกิจสาวชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เข่าแทบทรุดโดนมิจฉาชีพเปิดเฟสปลอมหลอกลงทุนเทรดหุ้นทองคำออนไลน์ ครั้งแรกลงไป 4 หมื่นได้ผลกำไรจริง 2 แสนทำให้หลงกล นำเงินเก็บจากการทำธุรกิจโอนไปลงหุ้นเพิ่มตามที่มิจฉาชีพหลอกล่ออีก 8 ครั้ง ตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักล้าน สุดท้ายถูกดูดเงินหายเกลี้ยงกว่า 10 ล้าน ปิดเพจหนีติดต่อไม่ได้ โร่นำหลักฐานแจ้งความ วอน ตร.ไซเบอร์ช่วยหมด
วันที่ 10 ธ.ค. 2566 น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 36 ปี นักธุรกิจชาวอำเภอนางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้นำเอการหลักฐาน ข้อความการแชทสนทนาทางเฟสบุ๊ก แอพเทรดหุ้นทองคำที่หลอกให้ร่วมลงทุน และสลิปการโอนเงิน เข้าแจ้งความที่ สภ.นางรอง ให้ตำรวจช่วย หลังจากถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้ร่วมลงทุนเทรดหุ้นทองคำออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. – 2 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา ถูกดูดเงินสูญไปทั้งหมดกว่า 10 ล้าน 7 แสนบาท แล้วปิดเพจหนีติดต่อไม่ได้ เดือดร้อนหนักไม่มีเงินไปหมุนเวียนทำธุรกิจ
โดย น.ส.บี ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา มีผู้ใช้เฟชบุ๊กรายหนึ่ง ส่งข้อความมาสอบถามว่า สถานที่ท่องเที่ยวตามในภาพซึ่งอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์อยู่ที่ไหนสวยดีเขาจะไปเที่ยว ตนเองก็ตอบกลับไปตามที่เขาถาม จากนั้นเขาก็แชทคุยตีสนิทไปเรื่อย แล้วจู่ๆ เขาก็บอกว่าเขาเทรดหุ้นทองคำอยู่ได้กำไรดีมาก ซึ่งมันตรงกับตัวเองก็เล่นหุ้นของตลาดหลักทรัพย์อยู่พอดี แต่ช่วงนั้นหุ้นตลาดหลักทรัพย์ติดลบค่อนข้างเยอะ จึงสนใจลองสอบถามเขากลับไปว่ามันต้องทำยังไง จากนั้นเขาก็ส่งแอพพลิเคชั่น ชื่อ ZFX ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ออนไลน์สำหรับลงทุนเทรดหุ้นทองคำ มาให้ติดตั้งแล้วเขาก็สอนวิธีการทำ ตอนแรกก็ยังไม่มั่นใจ จึงลองลงทุนเทรดหุ้นทองคำในแอพดังกล่าวตามที่เขาส่งมาให้ 4 หมื่นบาท ก็ได้เงินกลับมาจริง 200,000 บาท ซึ่งตนเห็นว่าได้ผลกำไรจริงตามที่เขาบอก จึงหลงเชื่อนำเงินเก็บสะสมที่ได้จากการทำธุรกิจในครอบครัว ทยอยลงทุนเทรดหุ้นทองคำในแอพดังกล่าวตามที่เขาหลอกล่อ เพราะเขาบอกว่าถ้าเติมเงินไม่ครบตามโปรจะถอนเงินไม่ได้ จึงหลงเชื่อโอนเงินเติมเข้าไปในแอพเพื่อร่วมหุ้นครั้งละหลักหมื่น ถึงหลักล้านอีก 8 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 10 ล้าน 7 แสนบาท แต่พอจะถอนเงิน กลับถอนไม่ได้ จึงติดต่อไปคนที่ทักเฟสมาหาตอนแรก ก็ถูกบล็อกน่าจะเป็นเฟสปลอม ส่วนในแอพที่เปิดรับเทรดหุ้นออนไลน์ ก็ติดต่อใครไม่ได้เหมือนกัน
จึงรู้ตัวว่าถูกหลอกแต่ก็สูญเงินไปกว่า 10 ล้านแล้ว จึงได้นำหลักฐานทั้งหมดเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรนางรอง ทั้งนี้ยังได้วิงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ ช่วยเหลือติดตามเงินที่ถูกหลอกไปมาคืนด้วย เพราะเป็นเงินเก็บจากการทำธุรกิจตอนนี้เดือดร้อนมากไม่มีเงินไปหมุนเวียนทำธุรกิจ และอยากให้จับกุมแก๊งมิจฉาชีพดังกล่าวมาดำเนินคดีด้วย จะได้ไม่ไปหลอกลวงคนอื่นอีก ทั้งนี้ยังได้ฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่คิดจะทำธุรกิจหรือลงทุนอะไรก็แล้วแต่ทางออนไลน์ ให้ระมัดระวัง เพราะอาจถูกหลอกสูญเสียเงินเหมือนกับตนเอง
