ข่าวอาชญากรรม

นครพนม ญาติยัน หนุ่มหลอนยาเสพมากว่าสิบปี ก่อนฟัน ตำรวจเสียชีวิต

ความคืบหน้ากรณีนายอานุเดช ไชยปัญญา ก่อเหตุใช้อาวุธมีดทำร้าย ร.ต.ท. อิสราวุฒิ โกพลรัตน์ รอง สวป.ปราบปราม สภ.ธาตุพนม จนเสียชีวิตขณะเข้าตรวจสอบเหตุหลังได้รับแจ้งว่านายอานุเดช อาละวาดทุบทำลายข้าวของ หลังก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัว นายอานุเดช ไว้ได้พร้อมนำตัวไปคุมขังที่สภ.ธาตุพนม ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2566 พ.ต.อ.ถวิล คำเกษ ผกก.สภ.ธาตุพนม ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวก่อนจะเข้าห้องประชุมว่า ปกติในการเข้าระงับเหตุ มีแนวทางปฏิบัติไว้แล้ว คือต้องเป็นไปตามยุทธวิธี และชุดเผชิญเหตุที่ตั้งไว้ ส่วนถ้าใครไปก่อน ก็คือไปดูแล้วประเมินสถานการณ์แล้วจะต้องเข้าพร้อมกันกับชุดเผชิญเหตุซึ่งมีการซ้อมแผนอยู่เสมอ ๆ แต่ที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในเคสนี้เนื่องจากช่วงเกิดเหตุมี ตำรวจอยู่ที่ตู้ยาม 2 คน และอยู่ใกล้ที่เกิด ผู้เสียชีวิตเข้าไปในพื้นที่ก่อน และชุดเผชิญเหตุกำลังตามเข้าไป แต่ไปสมทบไม่ทัน เพราะผู้เสียชีวิตอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเกินไป ส่วนความผิดพลาด ก็เป็นไปได้ว่าเจ้าหน้าที่เราอาจจะประเมินสถานการณ์ผิดพลาด ว่าผู้ป่วยอยู่ในอาการที่คลุ้มคลั่งมากน้อยขนาดไหน

ขณะที่นางอภิยุ สุวรรณบุปผา อายุ 50 ปี พี่สาวของนายอานุเดช ผู้ก่อเหตุเปิดเผยว่า เหตุที่เกิดขึ้นเนื่องจากน้องชายเสพยาบ้าจนเกิดอาการหลอน อาละวาดทำลายข้าวของซึ่งมักจะเกิดขึ้นเป็นประจำ โดยก่อนหน้านี้นานอานุเดช เคยมีภรรยาและลูก 1 คน แต่ได้เลิกรากันไปก่อนจะกลับมาอยู่ที่บ้านหลังที่เกิดเหตุเมื่อราว ๆ 6-7 ปีมาแล้ว ซึ่งปกติจะมีอาชีพกรีดยางซึ่งทางพ่อได้แบ่งสวนยางให้ทำกินแต่เมื่อได้เงินมาก็จะเอาไปเสพยาจนบางวันนอนสองสามวันไม่ลุกขึ้นมากรีดยางก็มี เป็นแบบนี้มานานแล้ววันไหนขาดยาก็จะหลอนอาละวาดร้องตะโกนว่าจะมีคนมาตามฆ่า จนต้องเอาไปบำบัด แต่หลังบำบัดกลับมาก็เหมือนเดิม จนหมดปัญญาแก้ไข

ส่วนนายศุภชัย พ่วงศิริ ผู้ใหญ่บ้านบ้านโชคอำนวย เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุเสพยาบ้ามากจนเกิดอาการทางจิต และ อยู่ระหว่างการบำบัดรักษา แต่ทีนี้ในการรักษาไปหาหมอ แต่ไม่ต่อเนื่อง ไม่ยอมกินยาเกิดอาการหลอนกลัวคนจะมาทำร้าย จนใครๆ ก็เข้าใกล้ไม่ได้ ขนาดพี่สาวจะเอายาไปให้กินแต่ก็เข้าใกล้ไม่ได้กลัว จะถูกทำร้ายร่างกาย ตนในฐานผู้นำชุมชนได้พยายามนำไปบำบัดเสมอแต่ พอบำบัดเสร็จกลับมาก็เป็นเหมือนเดิม เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นผู้นำชุมชน มีวิธีคัดกรองผู้เสพอย่างไร นายศุภชัยกล่าวว่า ตนมีวิธีคัดกรองอยู่แล้ว ในหมู่บ้านว่าใครเสพ เพราะทางอำเภอเขาให้เน้นเรื่องนี้อยู่แล้ว ทางผู้ใหญ่บ้านก็ต้องเฝ้าติดตามว่าใครเสพ แต่ปัญหาที่เราพบเจอในขณะนี้ ก็คือว่า เรื่องยาเสพติด เราอยู่ระดับปฏิบัติระดับล่าง เราไม่สามารถทำงานได้เต็มที่เหมือนเจ้าหน้าที่เขา เพราะบางครั้งอันตรายมันจะกลับเข้ามาหาเราเอง นโยบายรัฐบาลออกมายังไง ระดับปฏิบัติการทำยังไง ในเคสนี้ มันมีทั้งคุมประพฤติ และ เพิ่งจะพ้นออกมาเมื่อเดือน มิ.ย.ก่อนคุมประพฤติก็มีคดี เรื่องเสพยาเสพติด พอเสพแล้วช่วงหลังก็คือหลอน ล่าสุดออกมาจากคุมประพฤติก็เข้าโครงการมินิธัญรักษ์ ซึ่งเป็นโครงการของ รพ.ธาตุพนม ก็ทำท่าว่าจะดี ออกมาก็มาบอกว่า ผู้ใหญ่หาทุนให้ผมหน่อยได้ไหม ก็เลยไปคุยกับ อบต. รับลูก หางบประมาณให้ ทีนี้พอถึงเวลาที่จะยื่นเอกสาร หนีก่อนเลย จนกระทั่งมาก่อเหตุ เพราะหลอนยาเสพติด และชอบหวาดระแวงว่าจะมีคนมาฆ่า

นายศุภชัยยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ยาบ้าทุกวันนี้มันหาง่ายจริงๆ เพราะมันมีผู้จำหน่าย ทีนี้ นายอานุเดช เวลาเสพไม่ได้เสพในหมู่บ้าน ไปเสพที่อื่น แล้วกลับมาอาละวาดในหมู่บ้าน เขาเสพจนหลอน เสพมานานมาก เสพมานานหลายปี แต่เรื่องป่วยจิตเวช มีแต่ไปรับยา ไปคุยกับเจ้าหน้าที่จิตเวช เขาก็ให้ยามา แต่ไม่เคยเข้ารักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชเลย เคยแต่ไปบำบัดรักษาทางจิต แต่เขาไม่มีบัตรผู้ป่วยจิต เพราะสอบถามญาติพี่น้องบอกไม่มี เราก็ยังตีเป็นผู้ป่วยจิตไม่ได้ และปัจจุบันเรามีวิธีคัดกรองผู้เสพในชุมชนตาม นโยบายที่อำเภอมอบหมาย ก็คือ ค้นหา ข้อมูลจากชุมชน สังเกตพฤติกรรม อาการที่เปลี่ยนไป บางคนมีอาการเห็นชัด บางคนสืบจากทางญาติผู้ใกล้ชิด ทำให้สามารถคัดกรองผู้เสพได้อย่างเข้มข้นถึงร้อยละ 80 เรื่องจำหน่ายเราชี้ชัดไม่ได้ เราก็ได้แต่เก็บข้อมูลว่าเป็นผู้ต้องสงสัยที่จะค้า มีเจ้าหน้าที่มาเอาตัวไป ก็ปล่อยมา เหมือนเดิม

ส่วนบรรยากาศงานศพของ ร.ต.ท. อิสราวุฒิ ที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศล ที่ศาลา 2 วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เป็นไปด้วยความโศกเศร้า ตอนกลางวันมีเพื่อตำรวจด้วยกันพลัดกันมาร่วมงานตลอดเวลา โดยนางกนกนาฏ โกพลรัตน์ ภรรยาของผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่าเบื้องต้น ทางผู้บังคับบัญชาได้ให้ความช่วยเหลือทุกอย่างในการจัดงาน เป็นอย่างดี โดยมีจัดให้มีพิธีรดน้ำศพในเย็นวันนี้ เวลา 17.00 น.