เกิดเหตุไฟไหม้ศาลาการเปรียญศูนย์ปฏิบัติธรรม สาขาวัดมหาธาตุ (พระอารามหลวง) วอดทั้งหลังส่งผลให้มีพระพุทธรูป จีวรพระและทรัพย์สินอื่นๆที่เก็บเอาไว้ในศาลาการเปรียญก็ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหมดแต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
เมื่อเวลาประมาณ 19.02 น.ของเมื่อคืนที่ผ่านมาของวันที่ 3 ม.ค. 2567 พ.ต.ท.มิตรชัย บุญล้ำ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองยโสธร ได้รับแจ้งเหตุไฟศาลาการเปรียญศูนย์ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ สาขาวัดมหาธาตุ (พระอารามหลวง) บ้านค้อใต้ ต.ค้อเหนือ อ.เมือง จ.ยโสธร จึงประสานรถดับเพลิงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียงที่เกิดเหตุพร้อมรุดไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้งพร้อมด้วย พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เพชรรัตน์ ผกก.สภ.เมืองยโสธร พ.ต.ท.วรวุทธิ์ ท่านมุข รองผกก.สส.สภ.เมืองยโสธร และนายสรชาย ครองยุทธ นายอำเภอเมืองยโสธร
ในที่เกิดเหตุเป็นศาลาการเปรียญชั้นเดียวพบเปลวไฟกำลังลุกไหม้และลุกลามอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ต้องประสานรถดับเพลิงถึง 5 คัน เข้าระดมฉีดน้ำสกัดเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงโดยใช้เวลานานกว่า 45 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ แต่เพลิงก็ได้ไหม้ศาลาการเปรียญวอดเกือบทั้งหลัง ตรวจสอบภายในพบพระพุทธรูป ผ้าห่มจีวรพระและทรัพย์สินอื่นๆ ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหมด
สามเณรภูริพัฒน์ โพธิ์ตาไสย์ อายุ 14 ปี ทราบว่าตนและสามเณรอีกคนมีห้องจำวัดอยู่ภายในศาลาการเปรียญหลังนี้ ซึ่งศาลาการเปรียญหลังนี้ถูกใช้เป็นที่เก็บของและเป็นห้องสำหรับให้สามเณรได้จำวัด โดยในขณะเกิดเหตุตนและสามเณรอีกรูปกำลังพากันนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ใต้ต้นไม้ ด้านหลังศาลาการเปรียญ ต่อมาได้สังเกตุเห็นเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นที่บริเวณใต้หลังคาศาลาการเปรียญ ด้วยความตกใจจึงไม่สามารถเข้าไปหยิบสิ่งของภายในกุฏิที่อยู่ในศาลาแห่งนี้ได้ทัน จากนั้นก็มีญาติโยมเข้ามาในศูนย์ปฏิบัติธรรมแล้วจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ อย่างไรก็ตามขณะเกิดเหตุไฟไหม้ตนและเพื่อนอีกคนอยู่เฝ้าศูนย์ปฏิบัติธรรมกันเพียงสองคน เนื่องจากพระอาจารย์ที่ดูแลรับผิดชอบภายในศูนย์ปฏิบัติธรรมไปรับกิจนิมนต์ภายในหมู่บ้าน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะประสานเจ้าหน้าตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงของเหตุเพลิงไหม้ในวันนี้ เพื่อจะได้หาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ส่วนความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าศาลาการเปรียญศูนย์ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ สาขาวัดมหาธาตุ (พระอารามหลวง) บ้านค้อใต้ ต.ค้อเหนือ อ.เมือง จ.ยโสธร เป็นศาลาหลังแรกที่ก่อสร้างเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรม โครงสร้างหลักเป็นไม้หลังคามุงสังกะสี มีอายุประมาณกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งปัจจุบันไม่ได้เปิดใช้งานสำหรับปฏิบัติกิจของสงฆ์หรือให้ญาติโยมเข้าไปทำบุญในศาลาการเปรียญหลังนี้แล้ว เพราะได้มีการก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ขึ้นมาใช้งานแทนหลังนี้ จึงใช้เป็นที่เก็บสิ่งของทรัพย์สินต่างๆและกั้นเป็นห้องให้สำหรับพระและสามเณรได้ใช้จำวัด ซึ่งในขณะเกิดเหตุมีรถกระบะและรถไถนาเดินตามจอดอยู่ข้างศาลาการเปรียญ แต่ชาวบ้านได้ช่วยกันเข็ญออกมาได้จึงไม่เกิดความเสียหายแต่อย่างใด