ข่าวอาชญากรรม

ร้อยเอ็ด คุมตัวนายดาบตำรวจฝากขังหลังชนเด็ก

จากกรณีเมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 1 ก.พ. 2567 ร.ต.อ.หญิง พัชริดา พิมเภา รองสารวัตรสอบสอน สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถกระบะชนรถจักรยานยนต์ บริเวณหน้าตลาดสดทุ่งเจริญ ริมถนนเปรมประชาราษฏร์ เขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส จึงรุดออกตรวจสอบพร้อม กู้ชีพพีร์คำทอน รพ.ร้อยเอ็ด กู้ภัยอโสก

ถึงจุดเกิดเหตุ เป็นถนนเปรมประชาราษฏร์ เยื้องกับสี่แยก หลังวิทยาลัยอาชีวศึกษาร้อยเอ็ด พบผู้ได้รับบาดเจ็บเด็กชาย 1 ราย อายุประมาณ 12 ปี ทราบชื่อคือ ดช.วริศ พึงไพศาล ได้รับบาดเจ็บ มีแผลถลอกที่ลำตัว และใบหน้ามีแผลฉกรรย์ ฉีกขาดขนาดใหญ่ มีอาการซึม เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาล เร่งนำส่งโรงพยาบาลร้อยเอ็ด

หลังจากนั้นตำรวจ สภ.เมือง ได้วิทยุสกัดจับ จนสามารถติดตามรถกระบะคันดังกล่าวไว้ได้ ที่ สี่แยก รร.อนุบาลร้อยเอ็ด ก่อนคุมตัวคนขับ ทราบชื่อคือ ดาบตำรวจ สมทรง ศรีอาราม อายุ 49 ปี สังกัด สภ.นาใน อ.พรรณานิคม ภจว.สกลนคร มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองร้อยเอ็ด

พนักงานสอบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้ตั้งข้อกล่าวหาต่อ ดาบตำรวจ สมทรง ศรีอาราม อายุ 49 ปี “ขับรถโดยประมาทและในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสและทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย แล้วหลบหนีไม่หยุดช่วยเหลือตามควรหรือแจ้งเหตุแสดงตนต่อตำรวจที่ใกล้เคียงทันที ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คุมตัวฝากขังศาลผลัดแรก ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด เยี่ยมให้กำลังใจแก่ครอบครัวเด็กผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุกระบะชนรถจักรยานยนต์ ที่พักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ร้อยเอ็ด

จากเหตุการณ์ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.50 น. กู้ชีพพีร์คำทอน โรงพยาบาลร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถกระบะชนรถจักรยานยนต์ บริเวณหน้าตลาดสดทุ่งเจริญ ริมถนนเปรมประชาราษฎร์ เขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส จึงรุดหน้าไปที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเด็กชาย 1 ราย อายุประมาณ 12 ปี มีแผลถลอกบริเวณหัวไหล่ ลำตัว และใบหน้า มีแผลฉีกขาดลึกตามหัวไหล่ ลำตัว และใบหน้า ศีรษะได้รับการกระทบกระเทือน กระดูกหัวไหล่หักทั้งสองข้าง อาการสาหัส และได้นำตัวส่งเข้ารักษาที่แผนกฉุกเฉิน โรงพยาบาลร้อยเอ็ด ทีมแพทย์ CVT (แพทย์ผ่าตัดหัวใจหลอดเลือดและช่องทรวงอก) แพทย์ พยาบาล ได้ให้การช่วยแหลือและช่วยฟื้นคืนชีพ และเข้าแอดมินที่หอผู้ป่วยหนักศัลยกรรมในระยะวิกฤต โดยอาการปัจจุบันผู้ป่วยรู้สึกตัวดี พ้นขีดอันตราย แต่ต้องอยู่ในการรักษาจากทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นผู้ป่วยที่ผ่านอาการวิกฤต ซึ่งนายแพทย์ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ได้มอบหมายให้ นพ.ธนากร จิรชวาลา รองผู้อำนวยการ ฝ่ายการแพทย์คนที่ 1 นำคณะแพทย์ร่วมวางแผนให้การรักษาหลังผ่านภาวะวิกฤติ ซึ่งแพทย์ศัลยกรรมกระดูกกจะทำการผ่าตัดรักษากระดูกที่หัก แพทย์ศัลยกรรมตกแต่งรักษาผ่าตัดซ่อมแซมเนื้อบริเวณใบหน้าที่ขาดหายไปจากอุบัติเหตุ และการรักษาบาดแผลเพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยมีศัลยแพทย์โรงพยาบาลร้อยเอ็ด โดย นพ.ธนากร จิรชวาลา เตรียมความพร้อม แพทย์ พยาบาล นักจิตวิทยา เพื่อดูแลเยี่ยวยาภาวะจิตใจแก่ผู้ป่วยและญาติต่อไป และได้วางแผนให้จิตแพทย์เด็กดูแลด้านจิตใจหลังถอดเครื่องช่วยหายใจและวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 11.40 น. พ.ต.อ.ทรงพล บริบาลประสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินทางมาเยี่ยมผู้ป่วยพร้อมให้กำลังใจแก่ญาติ พร้อมนี้ได้มอบกระเช้าเยี่ยมและเงินช่วยเหลือ จำนวน 10,000 บาท

ขณะที่นายภัทรพล ศรีอาราม พ่อของผู้ก่อเหตุ และ แม่ซึ่งอยู่ด้วยกันกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าหลังทราบข่าวรู้สึกตกใจและไม่คิดว่าเรื่องจะร้ายแรงขนาดนี้ ซึ่งหลังๆพบว่าลูกชาย ชอบดื่ม มากขึ้นและมีนิสัยก้าวร้าว คาดว่า จะเป็นเพราะไปปฏิบัติหน้าที่เป็นชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบหรือไม่เลยมีโอกาสดื่มหรือพบปะกับเพื่อนฝูงบ่อยขึ้น มักจะพาเพื่อนมาดื่มกันบ่อยครั้งเวลากลับบ้านหาพ่อแม่ ช่วงหลังพ่อแม่ เห็นว่าไม่เข้าทีจึงห้ามไม่ให้พาเพื่อนฝูงมาดื่มใน บ้านของตนเด็ดขาด ขอร้อง และ เคยบอกไปแล้ว

จากภาพข่าวที่เห็นภาพเด็ก ได้รับบาดเจ็บและถูกกระทำ หัวอกพ่อแม่ทุดคน ถ้าเรามีลูกก็คงเจ็บปวดเหมือนกัน เห็นใจ นักเรียนที่บาดเจ็บและครอบครัว เห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน อยากกราบขอโทษครอบครัวของเด็กมากๆผมไม่ได้สอนลูกอย่างนี้ขออโหสิกรรมสิ่งที่ลูกทำไปด้วย ส่วนคดีก็ว่ากันไปตามระบบ

ก่อนเกิดเหตุพ่อเล่าว่าช่วงเช้าวันเกิดเหตุทราบว่าลูกไปดื่มกับเพื่อนในหมู่บ้าน แล้วกลับมาขับเอารถยนต์ซึ่งจอดไว้ภายในสวน และฟังจากเสียงการออกรถก็เข้าใจแล้วว่าต้องอยู่ในสภาพเมาแน่นอน ระหว่างนั้นได้ยินเสียงชนอะไรสัดอย่าง จึงเดินไปดํเห็นถอยชนต้นไม้จนเป็นรอย พ่อก็เดินเข้าไปห้าม และบอกถ้าเมาอย่าขับรถแต่ไม่ฟัง กระทั่งมาทราบทีหลังว่าไปชนคนในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดก็ตกใจมาก พ่อแม่ถึงกับน้ำตาคลอเบ้าที่เกิดเกตุการณ์อย่างนี้ พ้ฝ่อแม่แม้จะอายุมากไม่ได้ลำบากพออยู่พอกิน ทำไร่นาสวนผสมในที่ดินที่มีอยู่กว่า 40 ไร่ ที่อำเภอจังหาร จ.ร้อยเอ็ดสามารถเลี้ยงดูลูกได้

ขณะที่นายสุขุม พึ่งไพศาล ผู้เป็นตา หรืออากู๋ของน้อง โซยตี๋ อายุ 12 ปีนักเรียนชั้นป 6 โรงเรียนแห่งหนึ่งสังกัดเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด บอกว่า น้งโซยตี๋ ครอบครัวมีปัญหาพ่อแม่แยกทางกันเมื่อหลายปีก่อน และเร๋วๆ นี้ แม่น้องเสียชีวิต จึงมาอาศัยอยู่ดับครอบครัวตน ก่อนเกิดเหตุญาติได้พาขี่ จยย.ไปซื้อยองหน้าตลาดเพื่อเตรียมตัวไปเข้าค่ายลูกเสือวันนี้ โดยสิ่งของส่วนหนึ่งไปฝากเพื่อนไว้ที่โรงเรียนแล้ว ก่อนจะมาถูกรถชนอาการสาหัส และไม่ได้ไปร่วมเข้าค่ายลูกเสือตามที่ตั้งใจเอาไว้ และช่วงเช้าวันนี้ได้ไปเยี่ยมหลานที่ห้อง ICU ร้อยเอ็ดและทราบ ว่า อาการโดยรวมตอบสนองได้ระดับหนึ่งแต่ยังน่าเป็นห่วงและยังถือว่สวิกฤตอยู่เนื่องจากตามร่างกายมีบาดแผล เยอะแยะ บริเวณ แขน ก็มีแผลยาว ใบหน้าถลอกจมูกยุบ ปากบางส่วนเนื้อหลุดออกไปด้วยยังน่าเป็นห่วงต้องดูอาการวันต่อวัน ส่วนเรื่องคดีก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการถึงตอนนี้เรายังไม่มีเวลาที่จะดูเรื่องคดีต้องรอให้อาการหาย ก่อนซึ่ง สภาพตอนนี้ ความดันยังไม่คงที่แพทย์อนุญาตให้เยี่ยมได้บางเวลาและต้องขอขอบคุณท่านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ดและคณะครูที่น้องเรียนอยู่ที่ได้เดินทางเข้าเยี่ยมพร้อมมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นและสิ่งของบางส่วนพร้อมกับรับปากจะกำกับดูแลคดีอย่างเต็มที่และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย