เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ ฉวีทอง ผกก.ศรีธาตุ อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายเป็นชาย 1 คน วิ่งราวทรัพย์ร้านทองแม่อำนวย 4 เลขที่ 99/4 ม.12 ต.ศรีธาตุ อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี หลังรับแจ้ง พร้อมด้วย ร.ต.อ.ศุภกร เฉียบแหลม รอง สว.สอบสวน สภ.ศรีธาตุ และตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจสายตรวจ รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุห่างจาก สภ.ศรีธาตุ ไม่ถึง 500 เมตร
ร้านที่เกิดเหตุพบเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น 2 คูหา มีนายจิรวัฒน์ อำนวยเงินตรา อายุ 37 ปี เจ้าของร้าน นำเจ้าหน้าที่ชี้จุดเกิดเหตุ และนำตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้านซึ่งสามารถบันทึกภาพคนร้ายขณะก่อเหตุ ระบุเวลาประมาณ 14.05 น. คนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 30-35 ปี รูปร่างสันทัด สูงประมาณ 170 ซม. ผมรองทรง สวมเสื้อแขนยาวสีขาว กางเกงขายีนขายาว สะพายกระเป๋าแบบคาดอก สีเข้ม สวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า คนร้ายวิ่งราวสร้อยเลสข้อมือทองคำ น้ำหนัก 2 บาท ไป 1 เส้น มูลค่า 70,800 บาท ก่อนวิ่งหลบหนีไปขึ้นรถกระบะแคป อีซูซุ สีบรอนซ์เทา ที่จอดอยู่หน้าร้าน แล้วขับหลบหนีไปเส้นทาง อ.ไชยวาน โดยเจ้าของร้าน พนักงานร้าน พยายามวิ่งไล่ตาม และพี่ชายเจ้าของร้านขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามไป แต่ก็พาดกันในที่สุด โดยคนร้ายใช้เวลาก่อเหตุไม่ถึง 5 นาที และที่เกิดเหตุห่างจาก สภ.ศรีธาตุ ไม่ถึง 500 เมตร
นายจิรวัฒน์ฯ ให้การว่า ร้านทองเป็นของครอบครัวมีอยู่ 5 สาขา ตนดูแล 2 สาขา ใน อ.ศรีธาตุ เปิดมานานกว่า 14 ปี ก่อนเกิดเหตุเฝ้าร้านตามปกติ คนร้ายได้ขับรถกระบะมาจากถนนไป อ.ไชยวาน วนมาจอดหน้าร้าน แล้วเดินเข้ามาถามว่าจะมาไถ่ทอง แต่ว่าลืมเอาเอกสารมา ตนจึงบอกต้องมีใบไถ่ถอนและบัตรประชาชนถึงจะไถ่ถอนได้ คนร้ายจึงบอกว่าไม่เป็นไร ถ้าอย่างนั้นขอดูสร้อยข้อมือ 2 บาทก็ได้ ตั้งใจจะซื้อไปให้แฟน อีก 1 บาท จะซื้อไปฝากแม่ยายด้วย ตนจึงยกถาดมาให้เลือก ตนจึงถามว่าแขนแฟนขนาดเท่าไหร่ ตนจะได้แนะนำ ตนจึงเอาสร้อยมาเทียบที่แขนคนร้ายประมาณ 3 – 4 เส้น ให้เขาเลือก เขาก็ถามว่าเป็นพี่จะซื้อลายให้แฟน ตนจึงหยิบเส้นที่คนร้ายวิ่งราวไปมาให้ลอง เขาก็บอกให้คิดเงินมาเลย
“ระหว่างนั้นคนร้ายก็ออกอุบายว่าจะออกไปกดเงิน ตนจึงบอกให้เขาถอดสร้อยเลสทองออกก่อน ตอนนั้นคนร้ายมีพิรุธแล้ว เขาค่อยๆเดินออกไปจากร้าน พนักงานร้านหญิงก็เดินมาบอกให้ถอดสร้อยออกมาก่อน จากนั้นเขาก็วิ่งออกจากร้านไป พนักงานก็รีบวิ่งตาม ตนรีบเปิดประตูตามไป ตะโกนบอกญาติที่เฝ้าร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าข้างกันให้ออกมาช่วย คนร้ายขึ้นรถกระบะและรีบสตาร์ทรถขับหนีไปทันที พี่ชายตนก็รีบขับจักรยานยนต์ตามไปแต่ก็ตามไม่ทัน คนร้ายคนนี้พวกตนคุ้นหน้า คิดว่าน่าจะเคยมาใช้บริการที่ร้าน เขาคงเตรียมการมาแล้วเพราะถอดป้ายทะเบียนออก และเสียบกุญแจรถทิ้งไว้ ตั้งแต่เปิดร้านมาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เจอแต่ลูกค้าเอาทองปลอมมาขาย”
นายจิรวัฒน์ฯ ให้การต่อไปอีกว่า ต่อไปต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้ จะบอกลูกค้าให้ถอดหน้ากากอนามัย ถอดหมวก ทุกครั้ง อยากฝากถึงคนร้าย อยากให้เอาทองมาคืนดีกว่า โทษหนักจะได้เป็นเบา หรือหากติดต่อมาว่าจะคืน ก็ขอให้มาคุยกัน เราเองก็ไม่อยากจะเอาเรื่อง และหากใครทราบเบาะแสก็ขอให้แจ้งตำรวจ เพื่อจะได้จับคนร้ายให้ได้ จะได้ไม่ไปก่อเหตุที่อื่นอีก
เบื้องต้นตำรวจชุดสืบสวนได้เก็บหลักฐานกล้องวงจรปิดภายในร้านและนอกร้าน รวมถึงกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี และได้ประสานไปยังพื้นที่ข้างเคียงให้ช่วยตรวจสอบ เพื่อติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป