วันที่ 8 ก.พ. 2567 ที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 ค่ายศรีสกุลวงศ์ อ.เมือง จ.สกลนคร นายพิสิทธิ์ แร่ทอง รอง ผวจ.สกลนคร พล.ต.ต. สมจิตร เหล่ามงคลนิมิตร ผบก.ตร.ภ.จว.สกลนคร พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผกก.ตชด 23 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ บช.ปส.และเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จว.สกลนคร ร่วมกันแถลงผลการจับกุม 3 ผู้ต้องหา พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 4,000,000 เม็ด ซึ่งขณะเข้าจับกุมผู้ต้องหาพยายามหลบหนีและขับรถชนรถของเจ้าหน้าที่
โดยเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าวันที่ 7 ก.พ. 2567 เวลาประมาณ 18.00 น. จะมีขบวนการขนยาบ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน จากจังหวัดนครพนม ผ่านพื้นที่จังหวัดสกลนคร จึงจัดชุดออกไล่ล่า โดยสืบทราบว่าจะมีการใช้รถยนต์ 2 คัน เป็นรถกระบะและรถ SUV ขนผ่านมาแต่รถยนต์ SUV ได้พยายามหลบหนีโดยขับรถชนรถเจ้าหน้าที่ ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถติดตามควบคุมตัวได้บริเวณท้ายหมู่บ้านจันทร์เพ็ญ ตำบลจันทร์เพ็ญ อำเภอเต่างอย ทราบชื่อต่อมา คือ นายอภิสิทธิ์ อายุ 38 ปี จ.นครพนม นายยอดชาย อายุ 26 ปี จ.นครพนม และนางสาวต้า อายุ 27 ปี ชาวลาว พร้อมของกลาง เป็นยาบ้า จำนวน 4,000,000 เม็ด
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ว่า ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงหรือความปลอดภัยของประชาชนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
นายอภิสิทธ์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนได้รับการว่าจ้างจากนายปัน ชาวลาวว่า ให้มาขับรถฟอจูนเนอร์ ไปส่งกัญชาที่กรุงเทพ ในราคา 1.2 แสนบาท โดยให้ไปขับได้ที่ท้ายหมู่บ้านคำเตย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เสียบกุญแจทิ้งไว้ พร้อมเงินเติมน้ำมันอีก 2,000 บาท โดยจะมีนายยอด ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมเดินทางเป็นรถยนต์รถกระบะ ให้ทำหน้าที่สเก๊าด้านหน้า คอยแจ้งเหตุเวลามีด่านตำรวจ ได้ค่าจ้าง 3000 บาท แต่ก็เจอเจ้าหน้าที่จับกุมได้ดังกล่าว
ทางด้าน พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผกก.ตชด 23 กล่าวว่า เนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนมีนโยบายในการปราบปราบยาเสพติดตามพื้นที่ชายแดน สกัดกั้นไม่ให้ยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในพื้นที่ส่วนในของประเทศ โดยได้ร่วมกับ กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด เร่งฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง พร้อมที่ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งถือว่าเป็นความร่วมมือที่ดีในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบอย่างต่อเนื่องต่อไป