ข่าวอาชญากรรม

บุรีรัมย์ ครูผู้ปกครอง 2 นร.เหยื่อลุงเมาชนดับเรียกร้องเพิ่มโทษคดีเมาขับจำคุกตลอดชีวิต

ความคืบหน้ากรณีที่นายบรรจง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี ขับรถกระบะมิตซูบิซิ สีดำ หมายเลขทะเบียน บว 9955 บุรีรัมย์ เร่งแซงรถยนต์ที่ขับอยู่ด้านหน้า 3 คันรวด ก่อนจะข้ามเลนไปชน รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีขาว-ดำ หมายเลขทะเบียน ขนน 769 พระนครศรีอยุธยา บนถนนสายสตึก-จอมพระ ช่วงบริเวณบ้านแสงจันทร์ ต.สนามชัย อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (18 ก.พ.67) จนเป็นเหตุให้ ด.ญ.เพ็ญ อายุ 12 ปี และ ด.ญ.ปลาย อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอสตึกเสียคาที่พร้อมกันทั้ง 2 ราย ส่วนนายบรรจง ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะที่ข้ามเลนไปชน ก็มีอาการคล้ายมึนเมา โดยมีพยานเห็นว่าหลังเกิดอุบัติเหตุได้ออกมาจากรถในสภาพเดินเซไปมา และในมือถือกระป๋องเบียร์ติดมาด้วย ก่อนจะเดินไปไหว้ศพของนักเรียนทั้ง 2 คน ที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และนำตัวคนขับกระบะไปวัดระดับแอลกอฮอล์ในร่างกาย ก็พบระดับแอลกอฮอล์สูงถึง 107 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนด

ล่าสุดวันนี้ (19 ก.พ.67) ครอบครัวและญาติได้นิมนต์พระไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของน้องนักเรียนทั้ง 2 คนที่บริเวณจุดเกิดเหตุตามประเพณีความเชื่อ ขณะที่บรรยากาศงานศพของน้องทั้ง 2 คนก็เป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะพ่อและแม่ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียลูกอันเป็นที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ ภายในงานก็มีญาติ ชาวบ้าน คณะครูมาเคารพศพ และแสดงความเสียใจกับครอบครัวอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ พ.ต.อ.ยุทธนา ไตรทิพย์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสตึก พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุอีกครั้ง ซึ่งจุดเกิดเหตุเป็นถนน 2 ช่องจราจรที่กำลังมีการก่อสร้างเพื่อขยายเป็น 4 ช่องจราจร ยังพบชิ้นส่วนทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์กระจายเกลื่อนจุดเกิดเหตุ

โดยผู้กำกับฯ ระบุว่า ในทางคดีขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบปากคำพยานและรวบรวมหลักฐาน เพื่อประกอบสำนวนคดี โดยเฉพาะหลักฐานผลตรวจเลือดเพื่อหาสารเสพติดและแอลกอฮอล์ในร่างกาย ซึ่งหากมีหลักฐานชัดเจนว่าขับรถขณะมึนเมา ก็จะมีความผิดตามมาตรา 43 (2),160 ตรี วรรค 4 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 6 หมื่นถึง 2 แสนบาท

ด้านนายสุวิชัย บัวนิล ลุงของน้องปลาย หนึ่งในนักเรียนที่เสียชีวิต พูดทั้งน้ำตาว่า ครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียหลาน โดยเฉพาะอุบัติเหตุที่เกิดจากการเมาแล้วขับ ก็อยากให้คนขับชนหลานเสียชีวิตได้รับโทษตามกฎหมายและเยียวยาครอบครัวด้วย หากเป็นไปได้ก็อยากให้เพิ่มโทษคดีที่เมาแล้วขับทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ควรจะมีการพิจารณาเพิ่มโทษจำคุกตลอดชีวิตและยึดใบขับขี่ไม่ให้ขับรถอีก

ไม่ต่างจาก น.ส.สุดาทิพย์ สงฆัง ครูประจำชั้น น้องเพ็ญ บอกว่า ในฐานะคนเป็นครูก็ยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะน้องเพ็ญเป็นเด็กเรียนดีเป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งทักษะภาษาไทยบ่อยๆ และเขามีความใฝ่ฝันโตขึ้นอยากเป็นครู ก็ยิ่งรู้สะเทือนใจที่คนขับซึ่งมีอาการมึนเมาพรากชีวิตและอนาคตของน้องไป ส่วนตัวมองว่าคนที่ดื่มสุรามึนเมาไม่ควรจะขับรถด้วยซ้ำ หากเป็นไปได้ก็อยากจะให้เพิ่มโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือยึดใบขับขี่ไม่ควรจะให้ขับรถอีก