ข่าวอาชญากรรม

บุรีรัมย์ สาวผวาชายโรคจิตแอบนำรูปไปโพสต์คุกคามทางเพศและขอมีเซ็กส์ โร่แจ้ง จนท.ล่าตัวพบวัยรุ่นเจอหลายคน

สาวกลับจากเกาหลีมาเยี่ยมบ้านที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ผวาหนัก โดนชายโรคจิตนำรูปไปโพสต์คุกคามทางเพศให้อับอายเสียหายและขอมีเซ็กส์ แถมรู้ความเคลื่อนการดำรงชีวิตหวั่นไม่ปลอดภัย นำหลักฐานโร่ร้องศูนย์ดำรงธรรม ตรวจสอบพบวัยรุ่นหญิงในหมู่บ้านโดนหลายคนหวั่นอันตราย วอน จนท.เร่งล่าตัวดำเนินคดี

วันที่ 30 มี.ค. 2567 น.ส.กิตติพร หรือกิ๊ก อายุ 33 ปี ชาวตำบลบ้านสิงห์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเพิ่งกลับจากประเทศเกาหลีมาเยี่ยมบ้านที่อำเภอนางรอง ได้นำหลักฐานเข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนางรองให้ช่วยเหลือ หลังจากถูกชายโรคจิตซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใคร ได้นำรูปถ่ายของตนเองไปโพสต์สาธารณะในลักษณะคุกคามทางเพศให้อับอายเสียหาย ทั้งยังขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย แม้พยายามบล็อกหลายครั้งแต่ก็ใช้เฟสอื่นทักมาป่วนในลักษณะคุกคามทางเพศอีกเรื่อยๆ เป็นเวลาเกือบ 3 เดือน ทั้งยังรู้จักบ้านและรู้ความเคลื่อนไหวในการดำรงชีวิตประจำวันด้วย และนอกจากเธอแล้วยังมีหญิงวัยรุ่นในหมู่บ้านที่โดนลักษณะคล้ายกันอีกหลายคน เกรงจะไม่ปลอดภัย จึงได้มาร้องให้ศูนย์ดำรงธรรมช่วย โดยมีนายจักร์กฤษ ร่วมกูล ปลัดอำเภอฝ่ายศูนย์ดำรงธรรม รับเรื่องร้องเรียนไว้ เพื่อจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบหาตัวคนที่ก่อเหตุมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

น.ส.กิตติพร เล่าว่า ตนเพิ่งเดินทางกลับมาจากเกาหลี เมื่อเดือนมกราคม 2567 ที่ผ่านมา พอกลับมาถึงก็มีผู้ใช้เฟชบุ๊กชื่อ “ต๊ะ ‘ ติง งง ” ได้นำรูปของตนไปโพสต์สาธารณะแล้วมีข้อความในลักษณะคุกคามทางเพศว่า “hee ฟรีใครไม่เอา” ทำให้ตนอับอาบเสียหาย จากนั้นตนก็ได้เช็คจากผู้ใช้ Facebook รายนี้โดยให้สามีเป็นคนแชทก็ทราบว่าผู้ใช้ Facebook รายนี้น่าจะอยู่แถวๆ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จากนั้นมีผู้ชายแชทไลน์มาคุย แล้ว Video Call มาขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย แต่ตอนที่คอลจะไม่ให้เห็นหน้า ส่วนรูปโปรไฟล์หน้าเฟสบุ๊กที่ใช้ติดต่อมาหาตน ก็เชื่อว่าน่าจะเป็นรูปของคนอื่นที่ขโมยมาใช้เป็นโปรไฟล์ตัวเอง ซึ่งนอกจากชายโรคจิตดังกล่าว จะเฟสหรือคอลมาหาตนในลักษณะคุกคามทางเพศแล้ว ยังรู้จักบ้าน และรู้ความเคลื่อนไหวของตนด้วย รู้กระทั่งว่าตนกับแฟนจะไปต่างประเทศวันไหนแล้วจะกลับวันไหน ทั้งที่ไม่ได้โพสต์บอกใคร

จากพฤติกรรมของชายคนดังกล่าว ทำให้ตนรู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะไม่รู้เลยว่าเขาเป็นใครหน้าตาเป็นแบบไหน แล้วเวลาไปไหนมาไหนเขาจะติดตามหรือไม่ และไม่ใช่แค่ตนเองที่เจอแบบนี้ มีหญิงสาววัยรุ่นในหมู่บ้านก็เจอลักษณะคล้ายกันหลายคน แต่เขาไม่กล้าออกมาพูดหรือร้องเรียน แต่ตนมองว่าถ้าเงียบหรือปล่อยผ่านไม่ทำอะไรเลย ก็จะยิ่งทำให้ผู้หญิงตกอยู่ในอันตรายเพราะไม่รู้จะตกเป็นเหยื่อเมื่อไหร่หรือรูปแบบไหน จึงตัดสินใจนำหลักฐานมาร้องศูนย์ดำรงธรรม และจะไปแจ้งความด้วย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามหาตัวคนกระทำ มาดำเนินคดี ไม่ใช่ปล่อยให้ความรุนแรงต่อชีวิตร่างกายแล้วค่อยมาตามหาตัวคนทำผิด