ข่าวอาชญากรรม

บุรีรัมย์ จับแล้ว 4 คนร้ายทีมสังหาร “เสี่ยดำ” เจ้าของค่ายมวยดับคารถตู้ต่อหน้าลูกอ้างแค้นถูกขู่ฆ่าตำรวจเค้นสอบเพิ่มอาจถูกจ้างวาน

ตร.ชุดสืบภาค 3 สนธิกำลังสืบจ.บุรีรัมย์ และสืบกระสัง รวบยกแก๊ง 4 คนร้ายสังหาร “เสี่ยดำ” เจ้าของค่ายมวยและธุรกิจตลาดช่องจอม ดับคารถตู้ต่อหน้าลูกชาย หลังติดตามไล่ล่ามานานร่วมเดือน มือยิงอ้างเคยเป็นเพื่อนสนิทกับผู้ตายแต่เกิดความแค้นส่วนตัวโดนขู่ฆ่า ปัดไม่ได้วางแผนแค่บังเอิญมาเจอในงานจึงลงมือ ฝากขอโทษครอบครัวคนตาย ตร.ยังไม่เชื่อเตรียมเค้นสอบเพิ่มอาจมีปมอื่นหรือถูกจ้างวานฆ่า

(21 พ.ค.67) ที่ห้องประชุมชัยจินดาตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อม พล.ต.ต.สายเพชร ศรีสังข์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 , พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และ พ.ต.อ.ธีรพล ยมนา ผู้กับการการสถานีตำรวจภูธรกระสัง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมมือปืนที่ร่วมกันก่อเหตุยิง นายเปลี่ยนวิถี ต้องถือดี หรือ “เสี่ยดำ ช่องจอม” อายุ 56 ปี ชาว ต.โชคนาสาม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เจ้าของค่ายมวยแห่งหนึ่งใน อ.กาบเชิง และทำธุรกิจที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม จ.สุรินทร์ เสียชีวิตภายในรถตู้ ยี่ห้อฮุนได สีเทา ป้ายทะเบียนกัมพูชา ต่อหน้าลูกชาย หลังนำมวยเด็กมาร่วมชกในงานฉลองพัดยศเจ้าอาวาสวัดหนองเต็ง ต.หนองเต็ง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.วันที่ (22 เม.ย.67) ที่ผ่านมา

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 3 ได้สนธิกำลังกับตำรวจชุดสืบสวนภูธรจ.บุรีรัมย์ และตำรวจชุดสืบ สภ.กระสัง ได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข้อมูลเบาะแส ไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ และสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง จนได้เบาะและหลักฐานว่านายพงษ์ศักดิ์ ชะโรวงศ์ หรือแป๊ก อายุ 55 ปี ชาว อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เป็นคนก่อเหตุใช้อาวุธปืน .38 ยิงนายเปลี่ยนวิถี หรือเสี่ยดำ ก่อนขยายผลจับทีมร่วมสังหารเพิ่มอีก 3 คน ประกอบด้วย นายวงศ์ อย่าอ่อนดี อายุ 65 ปี , นายอนุพงศ์ จันทบาล อายุ 38 ปี และนายจักรกฤษ นักทำนา อายุ 35 ปี
โดยก่อนแถลงข่าว พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.อ.ธีรพล ยมนา ผกก. สภ.กระสัง และกำลังตำรวจ ได้นำตัวมือยิง และคนขับ จยย.พาหลบหนี ไปทำแผนยังจุดเกิดเหตุ ทั้งจุดที่ยิงเสียชีวิตคารถรู้ จุดที่มือยิงเดินไปขึ้นรถ จยย.มารับ ก่อนจะไปเปลี่ยนขึ้นรถยนต์ เพื่อหลบหนี และจุดซ่อนอาวุธปืน

จากการสอบถามนาย มือยิงอ้างว่า ตนเองเป็นเพื่อนสนิทกับผู้ตาย แล้วเกิดมีปัญหากันแต่ไม่ขอบอกว่าปัญหาอะไร กระทั่งตนถูกนาย หรือเสี่ยดำ ขู่ฆ่าจึงเกิดความแค้นฝังใจ จึงตัดใจก่อเหตุ แต่ไม่ได้วางแผนก่อนล่วงหน้าอ้างว่าวันเกิดเหตุมาดูมวย แล้วบังเอิญมาเจอผู้ตายในงานด้วย จึงใช้ปืนที่พกติดตัวมาเข้าไปยิงขณะเสี่ยดำ ขึ้นไปนั่งบนรถตู้ ซึ่งตอนก่อเหตุลูกชายของเสี่ยดำ ก็เห็นเหตุการณ์ด้วย พอถามว่ายิงไปกี่นัดผู้ต้องหาไม่พูดแต่บอกว่าให้การกับตำรวจไปแล้ว พอถามว่าอยากพูดอะไรถึงครอบครัวคนตายหรือไม่ ก็บอกว่าขอแสดงความเสียใจเพราะลูกคนตายก็เหมือนลูกของตัวเอง

นางเพ็ญ โซชะรัมย์ อายุ 62 ปี ชาวบ้าน บอกว่า ขนาดตนเองไม่ใช่ญาติคนตายยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะรุนแรงเกินไป ชาวบ้านในพื้นที่เองเขาก็ก็บอกว่ารับไม่ได้เหมือนกัน ยิ่งรู้ว่ายิงต่อหน้าลูกก็ยิ่งหดหู่ใจสงครามเมียและลูกของเขา ชีวิตทุกคนมีค่ามีปัญหาอะไรก็ควรจะพูดคุยกัน ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ลงโทษตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหานายแป๊ะ มือยิง “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร” ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คน แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น และช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิด” ทั้งนี้จะได้สอบปากคำและหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วย เนื่องจากยังไม่ปักใจเชื่อที่ผู้ต้องหาอ้างว่าปมเหตุมาจากความแค้นส่วนตัว อาจจะมีประเด็นอื่น หรืออาจจะถูกจ้างวานฆ่าหรือไม่ ก็ต้องหาหลักฐานเพิ่มเติม