ชาวบ้านดงบังและศิษย์เก่าโรงเรียนดงบังวิทยา ตำบลหัวนาคำ อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ เรียกร้องให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพป.) กาฬสินธุ์ เขต 2 ตั้งกรรมการสอบผู้อำนวยการโรงเรียนสั่งตัดไม้พะยูง อายุ 60 ปี 4 ต้น พร้อมให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่และออกจากพื้นที่ช่วงทำการตรวจสอบ ขณะที่ตัวแทนศิษย์เก่าอึ้ง รวมตัวไปแจ้งความตำรวจโรงพัก สภ.โนนสูงเจ้าของพื้นที่ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้ง
จากกรณีชาวบ้านดงบัง ต.หัวนาคำ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ สงสัยเหตุมีคนลักลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงด้านหลังอาคารเรียน โรงเรียนดงบังวิทยา โดยได้ตัดและขนย้ายไม้พะยูงอายุ 60 ปีไป 4 ต้น เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา ทิ้งให้เหลือเพียงตอและกิ่งไม้แห้ง รวมตัวเรียกร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในหมู่บ้านดงบังหมู่ 9 และหมู่ 12 ชาวบ้านยังคงจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ ถึงกรณีที่ผู้อำนวยการโรงเรียนดงบังวิทยา จ้างคนต่างหมู่บ้านเข้ามาตัดไม้พะยูง 4 ต้น โดยไม่มีการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาและผู้นำชุมชน รวมทั้งก่อนตัดไม่ได้ขออนุญาตจากธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นส่วนราชการที่รับผิดชอบไม้พะยูงในสถานที่ราชการด้วย ทั้งนี้ ชาวบ้านยังระบุว่าเหตุการณ์ไม้พะยูงในพื้นที่ถูกตัด มีประวัติว่าเคยเกิดขึ้นหลายครั้ง ทั้งภายในบริเวณโรงเรียนดงบังวิทยาและดอนตาปู่ประจำหมู่บ้าน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสูง ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ยังไม่สามารถจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้
นายทองดี โพธิหล้า อายุ 86 ปี บ้านเลขที่ 68 ชาวบ้านดงบัง กล่าวว่า จากกรณีผู้อำนวยการโรงเรียนสั่งตัดไม้พะยูงดังกล่าว เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น และไม่จำเป็นต้องตัดไม้พะยูงที่มีคุณค่า ที่เป็นสมบัติของโรงเรียนและชุมชนมาทำฝ้าเพดานซุ้มประตูโรงเรียน ซึ่งหากเป็นมติของคณะกรรมการสถานศึกษา และผู้นำชุมชน หรือได้รับอนุญาตจากธนารักษ์ก่อน ก็จะไม่มีใครติดใจ แต่การกระทำดังกล่าวทำให้ชาวบ้านและศิษย์เก่าทุกรุ่น มีความเคลือบแคลงสงสัย เพราะในพื้นที่มีเหตุการณ์ไม้พะยูงถูกตัดบ่อยครั้ง ทั้งนี้ทราบว่าภายในบริเวณโรงเรียนก็ถูกตัดหลายครั้ง รวมทั้งมีการขุดถอนตอไม้พะยูงออกไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ชาวบ้านและศิษย์เก่าเก็บข้อมูลและจับตาดูอยู่ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ไม้พะยูงถูกตัด 4 ต้นดังกล่าว จึงออกมาทวงถามและอยากให้มีคนออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วย
ด้านนางรัศมี บรรณกิจ ประธานสถาบันการเงินชุมชนบ้านดงบังใหม่ หมู่ 12 ในฐานะตัวแทนศิษย์เก่าโรงเรียนดงบังวิทยา รุ่น 05 กล่าวว่า ไม้พะยูงทุกต้นถูกปลูกขึ้นมาด้วยความรักและหวงแหน ศิษย์รุ่นต่อๆมาก็ได้ช่วยกันบำรุงรักษาจนเป็นต้นไม้ใหญ่ ให้ความร่มรื่นและอุดมสมบูรณ์มาหลายสิบปี แต่อยู่ๆกลับถูกตัดโค่นและแปรรูป เพียงเพื่อทำฝ้าเพดานและเพื่อความเป็นสิริมงคล จึงเป็นเรื่องที่ชาวบ้านและศิษย์เก่าทุกรุ่น ทำใจยอมรับไม่ได้ จึงอยากเรียกร้องให้ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ซึ่งเป็นหน่วยงานสายบังคับบัญชาของผู้อำนวยการโรงเรียน ตั้งกรรมการตรวจสอบวินัย และในขณะทำการตรวจสอบควรมีคำสั่งให้หยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ และออกนอกพื้นที่ก่อน ทั้งนี้ ชาวบ้านและศิษย์เก่าพร้อมให้โอกาสผู้อำนวยการโรงเรียน เพราะเป็นคนบ้านเดียวกัน และไม่มีปัญหาส่วนตัวใดๆ
ด้านนายศุภกร จันทร อายุ 42 ปีตัวแทนศิษย์เก่ารุ่น 19 กล่าวว่า หลังเกิดเหตุผู้อำนวยการโรงเรียนสั่งตัดไม้พะยูง เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา ทราบว่าในเวลาประมาณ 09.30 น.ของวันนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสูง เจ้าของพื้นที่ ได้เข้ามาลงบันทึกประจำวัน ขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียน ก็ได้ทำหนังสือชี้แจงการทำไม้พะยูงต่อ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 เมื่อวันที่ 24 ก.พ.หลังตัดไม้แล้ว 2 วัน ซึ่งมีลักษณะเหมือนการทำหนังสือย้อนหลัง ระบุว่าเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยแจ้งว่าได้ทำการตัดไม้พะยูงที่ยืนต้นตายเพื่อทำฝ้าเพดาน จำนวน 4 ต้น ซึ่งขัดแย้งกับที่ชี้แจงกับชาวบ้านและศิษย์เก่าว่าไม้พะยูงตาย 2 ต้น และตัดต้นที่ยังไม่ตายเพิ่มอีก 2 ต้น
นายศุภกรกล่าวอีกว่า ตนและชาวบ้าน รวมทั้งศิษย์เก่าทุกรุ่น จึงรู้สึกสงสัยในพฤติการณ์ดังกล่าว จึงเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.โนนสูง เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนและดำเนินคดีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดไม้พะยูง ว่ามีความผิดอาญาหรือเข้าข่ายข้อหาใดหรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่ สภ.โนนสูงกลับไม่รับแจ้งความ อ้างว่าได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม ตนและชาวบ้าน ตัวแทนศิษย์เก่าโรงเรียนดงบังวิทยา ก็จะเดินหน้าต่อ ไป โดยจะร้องเรียนต่อธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ เพื่อความชัดเจนในเรื่องนี้ และเพื่อเป็นกรณีศึกษา ว่าตัดไม้พะยูงก่อนขออนุญาตได้ จริงหรือไม่