ข่าวอาชญากรรม

ขอนแก่น ตำรวจภาค 4 จับกุมแก๊งงัดตู้เซฟขโมยเงินสดและทรัพย์สินภายในโชว์รูมรถยนต์ หลังตระเวนก่อเหตุทั่วประเทศรวม 10 แห่ง ตั้งแต่ปี 2565 มูลค่ากว่า 1.7 ล้านบาท พบประวัติเคยถูกจับกุมเมื่อปี 2553 พ้นโทษปี 2563 ก่อนจะกลับมารวมแก๊งตระเวนก่อเหตุอีก

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค4 พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค4 พร้อมตำรวจชุดสืบสวนภาค 4 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายสิงห์ อายุ 40 ปี ที่อยู่ 365 ม.10 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี นายเสือ อายุ 30 ปี ที่อยู่ 24 ม.10 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี. นายเข้ อายุ 24 ปี ที่อยู่ 154 ม.1 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี และนายฟรุ๊ค อายุ 22 ปี ที่อยู่ 13 ม.10 ต.นาดี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป พร้อมของกลางพร้อมของกลางรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีบอร์นทอง หมายเลขทะเบียน บพ 2787 สระแก้ว รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ TOYOTA วีออส สีบอร์น หมายเลขทะเบียน กฉ 4405 สระแก้ว อุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุ รวมทั้งทรัพย์สินที่ได้จากการก่อเหตุรวมกว่า 14 รายการ หลังจากร่วมกันตระเวนก่อเหตุงัดตู้เซฟภายในโชว์รูมรถยนต์ในหลายพื้นที่ รวมกว่า 10 ครั้ง ได้ทรัพย์สินกว่า 1,700,000 บาท

พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนกันยายน 2565 ถึงเดือนมีนาคม 2566 ได้เกิดเหตุมีกลุ่มคนร้ายตระเวนลักทรัพย์(งัดตู้เซฟ) ตามศูนย์บริการรถยนต์ HONDA และ TOYOTA ในพื้นที่รับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 4 และตำรวจภูธรภาค 1 รวมทั้งสิ้น 10 แห่ง มูลค่าความเสียหายกว่า 1,700,000 บาท จากการสืบสวนทราบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ คือกลุ่มผู้ต้องหา 4 คนดังกล่าวข้างต้น หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดขอนแก่น,ศาลจังหวัดอุดรธานี ต่อมาศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน โดยกล่าวหาว่า "ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้าโดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นจากการจับกุม"

ต่อมาเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2566 เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน มาเที่ยวพักผ่อนที่บริเวณเรียบชายหาด(หาดน้ำใส) หมู่ 4 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงสะกดรอยติดตาม จนมาถึงบริเวณชายหาดดังกล่าวเวลาประมาณ 14.30 น. พบผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ที่มีรูปร่างและลักษณะรูปพรรณตรงตามบุคคลตามหมายจับ จึงแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน สอบถามทั้ง 4 คน รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวจริงและไม่เคยถูกจับกุมในคดีนี้มาก่อน  ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการจับกุม จากนั้นได้แจ้งข้อหาและข้อกล่าวหาในชั้นจับกุมผู้ต้องหาที่ 1-3 ให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหาที่ 4 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมทั้งตรวจยึดของกลางดังกล่าวข้างตน จากนั้นจึงควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวอีกว่า เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ มีการอุกอาจก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน ต่อเนื่องกันหลายพื้นที่ทำให้ประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก ทางผู้บังคับบัญชาไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงได้สั่งการให้เร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายอย่างต่อเนื่อง และกลุ่มผู้ต้องหานี้ เป็นบุคคลที่มีประวัติเกี่ยวกับการกระทำความผิดร่วมกันลักทรัพย์(งัดตู้เซฟ) มาก่อน และเคยถูกจับกุมเมื่อปี 2553 จนพ้นโทษปี 2563 มีความรู้เกี่ยวกับการก่อเหตุงัดเซฟในลักษณะนี้มาก่อน ประกอบกับหลังพ้นโทษไม่มีอาชีพทำเป็นหลักแหล่ง (ตกงาน) จึงก่อเหตุเพื่อหาเงินดำรงชีพและจากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหา พบประวัติต้องโทษดังนี้ ผู้ต้องหาที่ 1 ต้องโทษข้อหาลักทรัพย์ทั้งหมด 9 คดี,ผู้ต้องหาที่ 2 ต้องโทษข้อหาคดีลักทรัพย์ทั้งหมด 4 คดี,ผู้ต้องหาคนที่ 3 ต้องโทษข้อหาคดีลักทรัพย์ทั้งหมด 4 คดีและผู้ต้องหาที่ 4 ต้องโทษข้อหาคดีลักทรัพย์ 1 คดี