ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย.66 เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศีขรภูมิ รับแจ้ง “เหตุโทรศัพท์มือถือระเบิดใส่คน” ทำให้มีผู้บาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย เหตุเกิดภายในหมู่บ้านแก ตำบลหนองขวาว หมู่ที่ 9 อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเกิดเหตุดังกล่าวภายในบ้านเลขที่ 124 หลังจากเกิดเหตุ กลุ่มเพื่อนคนเจ็บได้นำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาล และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น เรื่องราวกลับไม่เป็นไปแบบนั้น หลังจากทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปชันสูตรปรากฎว่ารอยแผลตรงบริเวณขมับเป็นร่องรอยของลูกปืนขนาด .38 ทะลุไปฝั่งอยู่ภายในสมอง
วันนี้ผู้สื่อข่าวรุดลงพื้นที่ไปตรวจจุดเกิดเหตุ ภายในบ้านเลขที่ 124 หมู่ 9 ตำบลหนองขวาว อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ จากการตรวจสอบภายในที่เกิดเหตุ พบร่องรอยของเลือดที่ยังหลงเหลืออยู่บนแคร่ที่เกิดเหตุ
สอบถาม นางเสริม เป่าปิด อายุ 68 ปี (เป็นเจ้าของบ้านและเป็นยายของคนก่อเหตุ) เล่าว่า เมื่อช่วงเวลา 02.00 ของวันที่ 10 เม.ย.66 ตนได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นอยู่ข้างนอกบ้าน ตนจึงออกมาดูซึ่งตนเองคิดว่าเป็นเสียงโทรศัพท์ระเบิดหรือเปล่า และได้เห็นโทรศัพท์วางไว้บนแคร่ และเห็นหลานชายของตนจับร่างของผู้หญิงขึ้น และมีเลือดไหลเป็นจำนวนมากไหลออกมาจากหัว และผู้ชายที่อยู่ในกลุ่มได้พยายามปั๊มหัวใจและนำตัวส่งโรงพยาบาล และนางเสริม ยังบอกอีกว่า กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้มักจะชอบมานั่งกินน้ำกระท่อมอยู่เป็นประจำที่บ้านตน บางวันก็กินถึงเช้า ส่วนเหตุดังกล่าวตนคาดว่าน่าจะเกิดจากนายเป็ก อายุ 16 ปี (หลานชาย) ทำปืนปากกาลั่นใส่คนตาย
สัมภาษณ์ผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า ตอนวันเกิดเหตุวันที่ 10 เม.ย. 66 กลุ่มวัยรุ่นได้ตั้งวงนั่งดื่มจนกระทั่งเกือบถึงเช้าได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ซึ่งคืนนั้นไม่ได้ยินเสียงปืนจนตำรวจบอกว่ามีการยิงกัน และกลุ่มวัยรุ่นเพื่อนๆผู้ตายบอกตนว่ามีการซุ่มยิง ตนก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก และได้ตอบกลับไปว่าทำไมไม่แจ้งจะได้เร่งสกัด สอบถาม เอ (วัยรุ่นในหมู่บ้าน) เล่าว่า เป๊ก คนที่ทำปืนลั่นใส่มีนิสัยใจคอเป็นคนร่าเริงเฮฮา ไม่เคยมีเรื่องราวบาดหมางกับใคร
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่งานศพนางสาวธิดาพร ประสานดี อายุ 18 ปี (ผู้เสียชีวิต) จัดงานศพขึ้นที่บ้านเลขที่238 หมู่ 8 ตำบลตรวจ อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความโศกเศร้าไว้อาลัยและผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับทางครอบครัวน้องนุช หรือ นางสาวธิดาพร ประสานดี (ผู้เสียชีวิต)
สัมภาษณ์ นายวีระยุทธ์ ประสานดี (พ่อผู้ตาย) อายุ 43 ปี เล่าว่า ตนทราบข่าวว่าลูกสาวถูกยิงเมื่อช่วงเวลา ตี 1 ของวันเกิดเหตุ ไม่รู้ว่าถูกยิงบริเวณขมับซ้าย หลังจากที่ทราบเรื่องตนถึงกับเข่าทรุดไม่คิดเลยว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นกับลูกสาวของตนเพราะลูกสาวพึ่งแต่เรียนจบชั้น ม.6 ยังไม่ได้รับวุฒิด้วยซ้ำแต่ต้องมาตาย อยากขอความเป็นธรรมกับสื่อตามเรื่องทางคดีความให้ถึงที่สุด และยังไม่ได้คุยเจรจากับทางผู้ก่อเหตุ
สัมภาษณ์นางยม พันธ์แก้ว อายุ 52 ปี (เป็นป้าผู้เสียชีวิต) เล่าทั้งน้ำตาอยากให้ผู้สื่อข่าวตามคดีความให้ถึงที่สุด เด็กกำลังจะมีอนาคตที่ดีต้องมาตายก่อน ตนเสียใจมากไม่รู้จะทำยังไง เรื่องกฎหมายก็ไม่รู้ กลัวว่าคดีจะเงียบ น้องนุชหลานสาวเป็นเด็กดี ขยัน ไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใคร พึ่งแต่จะเรียนจบวุฒิก็ยังไม่ได้ อยากให้นักข่าวช่วยตามคดีให้ด้วย
ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่สถานีตำรวจภูธรศีขรภูมิ เพื่อตรวจสอบและติดตามความคืบหน้าคดีความ
สัมภาษณ์ พ.ต.อ.กรทัช อู๊ตเจริญ ผู้กำกับ สภ.ศีขรภูมิ หลังจากรับแจ้งได้ให้ชุดสายตรวจลงพื้นที่ หลังรับแจ้งว่ามีมือถือระเบิดใส่หน้าคน ซึ่งตอนนั้นกลุ่มเพื่อนๆได้นำตัวคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาลศีขรภูมิเองแล้ว ต่อมาโรงพยาบาลได้แจ้งมาว่าผู้บาดเจ็บนั้นเสียชีวิตแล้ว และเจ้าหน้าที่ได้นำศพไปชันสูตรและเอกซเรย์ปรากฏว่าพบวัตถุบางอย่างติดอยู่ภายในสมองและทราบว่าวัตถุดังกล่าวคือลูกปืน ซึ่งไม่ใช่เป็นเหตุโทรศัพท์มือถือระเบิดใส่ แต่เป็นการโดนอาวุธปืนยิงจ่อที่ขมับซ้ายจนลูกปืนฝั่งอยู่ในกระโหลก ต่อมาได้เร่งชุดสืบติดตามตัวคนยิงได้ในเวลาต่อมา และให้การว่าเป็นการทำอาวุธปืนลั่นใส่หัว จนทำให้ นางสาวธิดาพร ประสานดี อายุ18ปี เสียชีวิต อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นและพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ และนำตัวนายเป็ก อายุ 16 ปี ไปฝากขังที่ศาลเยาวชนต่อไป