ข่าวอาชญากรรม

สุรินทร์ หนุ่มวัย 39 ขับรถกระบะกลับบ้านไม่ทันมอง จยย.ล้มอยู่กลางถนนเหยียบซ้ำเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้ากระบะพลิกคว่ำหลายตลบ ดวงแข็งเจ็บเล็กน้อย

วันที่ 14 เมษายน 2566 เมื่อเวลา 03.57 น. ร.ต.ท.สันติภาพ พลสว่าง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุรถกระบะพุ่งชนเสาไฟส่องสว่างล้ม 1 ต้น ที่บริเวณถนนปัทมานนท์ สายสุรินทร์-จอมพระ เป็นถนนสี่เลนมีเกาะกลางถนน บริเวณหน้าศูนย์ทดลองข้าว มีผู้ได้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมแจ้ง อาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์ เข้าช่วยเหลือ

เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบรถจักยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าคลิกสีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กษ-5926 สุรินทร์ สภาพพังเละล้อหน้าหลุดกระเด็นไปถนนอีกเลนหนึ่งกว่า 60 เมตร ผู้ขับขี่เป็นชาย 1 รายอายุ 18 ปี (ไม่ทราบชื่อ) สภาพบาดเจ็บ ศรีษะแตก คางแตก ห่างกันประมาณ 50 เมตรพบเสาไฟฟ้าส่องสว่างล้มอยู่เกาะกลางถนน กีดขวางทางจราจร พร้อมกันนี้ยังพบรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิแคป สีเทาเงิน ทะเบียน ฒร-2899 กรุงเทพมหานคร (ติดแก็ส NGV) ตะแคงคว่ำอยู่ถนนเลนอีกฝั่ง สภาพรถกันชนหน้ายุบ กระจกหน้าแตกและป้ายทะเบียนตกอยู่ข้างทางใกล้กับเสาไฟ มีนายนฤพงษ์ อายุ 39 ปี เป็นคนขับรถยนต์กระบะ ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณแขนขวามีบาดแผลลักษณะถูกของมีคมบาดที่แขนข้างขวา และคนเจ็บอีกคนเป็นหญิง อายุ 23 ปี ที่นั่งมากับรถยนต์กระบะยังไม่ทราบชื่อ ปวดที่สะโพก ปวดต้นคอและหลังอาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์ช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วนำส่งโรงพยาบาลสุรินทร์

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายนฤพงษ์ (คนขับรถกระบะ) กล่าวว่า ตนกลับจากไปเที่ยวในตัวเมืองสุรินทร์ และเวลาดังกล่าวตนกำลังเดินทางกลับบ้านที่อำเภอท่าตูม จ.สุรินทร์ แต่เมื่อถึงที่เกิดเหตุเกิดอาการง่วงในขณะที่ขับรถด้วยความเร็ว ไม่ทันมองว่ามีรถจักรยานยนต์ล้มอยู่กลางถนน ตนมาสดุ้งอีกที่รถยนต์กระบะตนได้พุ่งชนเหยียบเข้าจักรยานยนต์แล้วทำให้รถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟส่องสว่างที่อยู่เกาะกลางถนน แล้วรถยนต์ตนได้พลิกคว่ำหลายตลบ จนมาตะแคงอยู่อีกเลนหนึ่ง พอตนได้สติก็ทุบกระจกรถยนต์กระบะตนออกมาจากรถและรีบวิ่งไปดูคนเจ็บที่ขับรถจักรยนต์อีกที โชคดีทั้งตนกับเพื่อนและเจ้าของรถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย คิดว่าตนเองดวงแข็งที่ไม่ได้รับบาดเจ็บมาก ทั้งที่สภาพรถพังยับ

ส่วนรถกระบะที่เกิดเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่ให้รถยกมายกเก็บไว้ที่ สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมทั้งให้นายนฤพงษ์(คนขับรถยนต์กระบะ)และคนขับรถจักยานยนต์ มาที่ สภ.เมืองสุรินทร์ เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป