เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีกลุ่มชาวบ้านร้องสื่อว่ามีชายดมกาวแล้วคุ้มคลั่งบุกลวนลวนลามชาวบ้านและขโมยข้าวของทำให้ชาวบ้านหวาดผวาตามที่เป็นข่าว ชาวบ้านหลายคนต่างไม่กล้าออกจากบ้านเพราะเกรงว่าชายดังกล่าวจะออกอาละวาดข่มขืนลวนลาม เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านโคกสวาย หมู่ที่ 18 ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เร่งรุดไปลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงภายในหมู่บ้านโคกสวาย คุ้มหินปูน หมู่ที่ 18 ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบบ้านผู้เสียหายเพื่อที่ขอข้อมูลของเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น และผู้เสียหายที่เคยโดนชายดังกล่าววลวนลามได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว และทราบว่าเป็นผู้ก่อเหตุคนเดียวกันที่ก่อเหตุข่มขืนแม่บ้านปั๊มน้ำมัน ปีที่แล้วตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้ว
นางหาญ สุขสงวน อายุ 57 ปี (ป้าของนายรุ่งเรือง ชายผู้ก่อเหตุ) เล่าว่า หลานชายที่ก่อเหตุมีนิสัยชอบดมกาวและลักขโมยสิ่งของจริง และเคยขโมยมอเตอร์ไซต์ 2 คัน และจักรยานของตน และนายรุ่งเรืองบอกอะไรมักจะไม่ฟัง และเป็นผู้ป่วยจิตเวช ซึ่งเหตุการณ์ที่เป็นข่าวหลังหลานชายไปบุกลวนลามคนในหมู่บ้าน เรื่องนี้เกิดขึ้นนานแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ.2560 6ปีผ่านมาแล้ว ซึ่งไม่ใช่เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิด
สัมภาษณ์นางอำไพ คงศรี (ผู้เสียหาย) อายุ 42 บ้านเลขที่ 234 หมู่ 18 ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งนาย รุ่งเรืองนั้น ก็ได้เป็นญาตพี่น้องห่างๆกันอีกด้วย เหตุการณ์ที่นายรุ่งเรือง ดมกาวแล้วมีการบุกมาที่บ้านของตนเพื่อจะข่มขืน ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่ 2560 และตนได้คุยเจรจากับทางครอบครัวผู้ก่อเหตุและได้มีการเรียกค่าเสียหายจำนวน 10,000 บาท และต่อรองเหลือ 8,000 บาท ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนเรื่องข่มขืนแม่บ้านปั๊มน้ำมันเสียอีก ส่วนนายรุ่งเรืองเข้าใจว่าป่วยจิตเวช และมีนิสัยชอบดมกาวและลักเล็กขโมยน้อย และตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้ไปทำงานต่างจังหวัดไม่ได้อยู่ในหมู่บ้าน
โดยเหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดขึ้นนี้เป็นการลักเล็กขโมยน้อย เท่านั้นส่วนเหตุการณ์ที่นายรุ่งเรื่องผู้ก่อเหตุดมกาวแล้วไปบุกข่มขืนชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านหวาดผวาซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นนานแล้วไม่ใช่ปัจจุบัน เรื่องล่าสุดที่เกิดขึ้นข่มขืนแม่บ้านปั๊มน้ำมันเมื่อ ปี 65 ที่ผ่านมา
ด้าน พ.ต.อ.วีระพันธ์ ณ ลำปาง ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามและดูแลเคสนี้มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่ได้ปล่อยปะละเลยแต่อย่างใด โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมทั้ง อสม. ได้มาที่บ้านของนางอำไพ เพื่อมาพูดคุยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งกล่าวว่าทางเจ้าหน้าตำรวจจะดำเนินการตามหาตัวนายรุ่งเรือง เมื่อพบตัวแล้วจะนำตัวนายรุ่งเรืองไปรักษาอาการป่วยทางจิตประสาทอีกครั้ง