ข่าวอาชญากรรม

หนองบัวลำภู ชาวบ้านสุดทนจับสึกอลัชชีนำของเก่าภายในวัดไปขายได้เงินมาตั้งวงก๊งเหล้าร่วมกับโยมพฤติกรรมไม่น่านับถือ ชาวบ้นรวมตัวกันแจ้งตำรวจควบคุมตัวสึก ตรวจแอลกอฮอล์พบมีค่าสูงกว่า 300 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

วันที่ 31 พค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 30 พค.ที่ผ่านมาที่วัดป่าแห่งหนึ่งติดถนนเส้นทางวังหมื่น-โนนสัง ต.หนองบัว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ว่า ภายในวัดดังกล่าวได้มีพระสงฆ์ร่วมกันดื่มสุราอยู่ภายในกุฏิของวัด จึงเดินทางไปพร้อมกับ ร.ต.อ.ดลเทพ แก้วขันตี ร้อยเวร สภ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู พร้อมด้วยกำลังสายตรวจออกตรวจสอบ พบกลุ่มชาวบ้านประมาณ 20 คน ได้พากันมารอคอยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ทำการตรวจสอบการดื่มเหล้าของพระสงฆ์ภายในวัด ซึ่งวัดแห่งนี้ มีพระสงฆ์อยู่ด้วยกัน 3 รูป สังเกตแล้วเห็นว่า พระน่าจะมีอาการเมาหลายรูปและยังมีโยมผู้ชายอีกคนหนึ่งที่อยู่ภายในวัดมีอาการคล้ายคนเมาเช่นกัน จึงได้ขอกำลังเสริม จากทาง สภ.เมืองหนองบัวลำภู ให้ส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยควบคุม พระสงฆ์ เพื่อทำการตรวจสอบพฤติกรรมพระสงฆ์ดื่มสุรา

จากการสังเกตอาการ พระสงฆ์หนุ่ม 2 รูป มีลักษณะอาการคล้ายกับคนเมา เมื่อสอบถามทั้ง 2 ต่างยอมรับว่า ได้ดื่มเหล้าจริง ส่วนพระสงฆ์ที่อายุมากอีก 1 รูป แจ้งว่าไม่ได้ดื่มเหล้า ซึ่งชาวบ้านที่ทราบข่าวว่าพระในวัดดื่มเหล้าต่างพากันเดินทางออกมาดูและจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันถึงพฤติกรรมว่า พระที่วัดชอบให้โยมที่มา อาศัยอยู่วัดด้วยขับรถนำเอารถของวัดขน เศษเหล็ก โต๊ะเหล็กเก่า เก้าอี้เหล็กเก่า แบบพิมพ์เหล็กหล่อปูน ที่ชาวบ้านพากันเก็บไว้ภายในศาลาไปขายร้านรับซื้อของเก่าที่ บ้านวังหมื่น เป็นประจำหลายครั้ง เมื่อได้เงินมาก็จะให้ ชาวบ้านที่เป็นโยมมาอยู่ด้วยไปซื้อเหล้ามาดื่มกัน
พฤติกรรมของพระไม่เป็นที่พอใจของชาวบ้านมาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งการนำเหล็กของทางวัดออกไปขาย เท่าที่ชาวบ้านทราบ บางวันขนไปหลายรอบ รวม 3 วัน เอาไปขาย 8 รอบ รวมทั้งถังน้ำพลาสติกขนาดใหญ่ ทำให้ชาวบ้านได้พากันไปลงบันทึกประจำวัน ถึงพฤติกรรมของพระทั้ง 3 รูป ไว้กับ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองบัวลำภู ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อที่จะให้ดำเนินการตามกฎหมายกับพระที่นำสิ่งของวัดไปขาย โดยไม่แจ้งคณะกรรมการวัด ซึ่งถือว่าเป็นการขโมยสิ่งของวัดไปขาย เตรียมที่จะดำเนินคดี แต่มาวันนี้ก็ทำให้มีคนเห็นพฤติกรรม การดื่มเหล้าของพระไม่ไหว จึงได้โทรศัพท์แจ้ง ไปยัง สภ.เมืองหนองบัวลำภู ให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบให้กับชาวบ้านให้ด้วย ซึ่งก็พบว่า มีพระดื่มเหล้าเมาจริง

ส่วนเรื่องของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของพระนั้นแม้ว่า พระ 2 รูป จะยอมรับว่าได้ดื่ม แต่ชาวบ้านได้ขอร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ใช้เครื่องวัดแอลกอฮอล์ตรวจวัดเพื่อเป็นหลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจวัดแอลกอฮอล์พระทั้ง 3 รูป โดย พระจักรพงษ์ ขอสงวนฉายา ตรวจวัดได้ 202 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ พระอดุลย์ ขอสงวนฉายา ได้ 320 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ส่วนพระสงฆ์อีก 1 รูปที่บอกว่า ไม่ได้ดื่มเหล้าด้วยนั้น ตรวจแล้วไม่พบปริมาณของแอลกอฮอล์ในเลือดหลังจากนั้น ได้มีพระผู้ใหญ่ระดับเจ้าคณะตำบลหนองบัว เจ้าคณะอำเภอเมืองหนองบัวลำภู และพระผู้ใหญ่อีกหลายรูปของวัดที่ในพื้นที่ใกล้เคียง เมื่อทราบข่าวต่างพากันได้เดินทางมาสอบถามพฤติกรรมต่างๆ ซึ่งพระสงฆ์ทั้ง 2 รูป ต่างก็ยอมรับว่าได้ร่วมกันดื่มเหล้าจริง และเมื่อเห็นว่าผิดต่อพระวินัยของสงฆ์ จึงได้ ทำพิธีกล่าวลาสิขาต่อหน้าพระผู้ใหญ่ที่เดินทางมา ซึ่งหลังจากทั้ง 2 คน ได้สึกแล้ว ชาวบ้านได้เก็บกุญแจกุฏิคืนและให้ทั้งคู่เดินทางออกจากวัดไปในวันนี้ โดยทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำตัวไปส่งที่บ้านดอนหัน ในเขตเทศบาลเมือง

ทางด้าน ร.ต.อ.ดลเทพ แก้วขันตี ร้อยเวรฯ กล่าวว่า สำหรับเรื่องของการดื่มเหล้าที่ผิดวินัยสงฆ์ นั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการสึกผู้ที่มีอาการเมาและยอมรับแล้ว ส่วนเรื่องที่ ชาวบ้านกล่าวหาพระที่ขโมยทรัพย์สินของทางวัดไปขายร้านขายของเก่านั้น จะเป็นเรื่องของร้อยเวรเจ้าของคดีที่จะดำเนินการสอบสวนต่อไป ว่า พระอีกรูปหนึ่งที่เหลือจะมีส่วนร่วมหรือไม่อย่างไร

เบื้องต้นชาวบ้านก็ยังมีความเห็นต่าง บางคนยังอยากให้ พระทั้งหมดสึกเพราะการขโมยสิ่งของทางวัดไปขายนั้น ก็เป็นความผิดที่จะต้องปาราซิกอยู่แล้ว เพราะว่า การกระทำผิด 4 อย่างที่ระบุไว้ในศีล 227 ข้อของพระภิกษุสงฆ์ หากกระทำผิดไปแล้วจะเป็นโทษติดตัวที่ต้องพ้นจากสถานะสงฆ์ผู้ดำรงศีลของพระพุทธศาสนาในทันที แต่ชาวบ้านบางส่วนก็เห็นว่า พระรูปดังกล่าวอยู่มานาน เป็นพระที่ค่อนข้างจะช้าอาจจะไม่รู้ทัน พระหนุ่ม 2 รูปที่สึกไป จึงขอให้อยู่ต่อไปก่อน ส่วนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขโมยทรัพย์สินของทางวัดไปขายหรือไม่อย่างไรนั้นขอให้เป็นเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสืบสวนดำเนินการต่อไป