อดีตเซลแมนเต็นท์รถมือสองวัย 45 ปี ชาวตำบลหลุบ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ขายสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวอย่างงาม หลังจากค้นคว้าศึกษาในเว็บดัง
วันที่ 15 ธันวาคม 2566 ที่แปลงผักผู้พันฟาร์มผักไฮโดรโปนิกส์ บ้านเลขที่ 226 ม.14 ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยที่ติดกับเส้นทางหลวงจาก อ.ยางตลาด ไป จ.มุกดาหาร นายจักรกฤษณ์ เฉวียงวาศ อายุ 45 ปี อดีตเซลแมนเต็นท์มือสองแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ ได้ใช้พื้นที่ว่างเปล่าบริเวณหน้าบ้านปรับปรุงเป็นพื้นที่ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ปลอดสารพิษจำนวน 3 โรงเรือน หลังจากประสบพิษเศรษฐกิจการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จึงมีความต้องการที่จะมองหาอาชีพใหม่ ประกอบกับมีผู้แนะนำให้ลองศึกษาการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์
จากนั้นจึงได้ทดลองค้นคว้าศึกษาในเว็บค้นหาชื่อดังและ ยูทูป พร้อมกับเดินทางไปศึกษาหาข้อมูลกับผู้ที่เพาะปลูกที่ยึดเป็นอาชีพหลัก จึงนำความรู้เหล่านั้นมาทดลองปลูกในแปลงพื้นที่เล็กๆหน้าบ้าน แล้วได้ออกตระเวนสำรวจตลาดในพื้นที่ ที่มีผู้ต้องการนิยมหรือผู้ที่ชอบบริโภคอาหารออแกนิค อาหารปลอดสารพิษสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ จึงได้ลงมือทดลองปลูกผักไอโดรโปนิกส์พร้อมกับพัฒนามีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงขยายสถานที่แปลงปลูกผักเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในรายงานตามออเดอร์ แต่ในปัจจุบันพบว่า ผักไฮโดรโปนิกส์ที่ตนเองเพาะปลูกไว้มีไม่มีเพียงพอต่อความต้องการของตลาดที่เพิ่มสูงมากยิ่งขึ้น จากเคยส่งตาม ร้านค้า ร้านอาหาร หรือผู้ที่ชมชอบนิยมบริโภคอาหารปลอดสารพิษ ถึงกับต้องแจ้ง วัน เวลา ที่จะได้นำผักออกไปส่งตามความต้องการของตลาด
นายจักรกฤษณ์ เฉวียงวาศ อายุ 45 ปี กล่าวว่า อดีตเคยเป็นเซลแมนขายรถมือสองที่เต็นท์รถชื่อดังแห่งหนึ่ง ใน จ.กาฬสินธุ์ จากปัญหาเศรษฐกิจพิษโควิดทำให้ต้องมองหาอาชีพใหม่ๆที่จะนำรายได้มาจุนเจือครอบครัว และมีผู้แนะนำให้ลองปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ดู จากนั้นได้ศึกษาข้อมูลใน กูเกิ้ล ยูทูป ลงพื้นไปศึกษาหาความรู้กับผู้ที่ปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ที่ประสบความสำเร็จนำมาเป็นธุรกิจหลักได้
จากนั้นจึงได้ทดลองปลูกดู แต่ผักที่ปลูกนี้จะไม่ใช่ดิน แต่จะใช้น้ำที่ผสมกับสารอาหารเหลว มีฟองน้ำเพื่อให้ผักยึดเกาะดูดน้ำไปเลี้ยงลำต้น จากนั้นได้ออกสำรวจ ตามร้านค้า ตลาดนัด ร้านอาหาร พบว่าในพื้นที่ตัวเมืองกาฬสินธุ์การปลูกผักไอโดรโปนิกส์ยังไม่แพร่หลายมากนัก หลังจากศึกษาและลองทำจนเป็นที่เข้าใจแล้ว จึงได้ทำการขยายแปลง ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงพัฒนาเป็นโรงเรือนซึ่งตอนนี้มีอยู่ 3 โรงเรือนด้วยกัน ค่อยๆคิดค่อยๆทำไป จากนั้นได้นำผักไปขายในตลาดนัดบ้าง นำเสนอร้านอาหาร ร้านค้าบ้าง ผลตอบรับดีเกินคาด มีกระแสตอบรับกลับมาว่า ผักสด อร่อย ปลอดสารพิษ มีรสชาติหวาน กรอบ เด็กทานได้ ไม่มีความขมมากนัก ทำให้สามารถสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวเป็นอย่างดี
นายจักรกฤษณ์ กล่าวอีกว่า ในฟาร์มมีผัก กรีนคอส, กรีนโอ๊ค, เรดโอ๊ค, บัตเตอร์เฮด, ฟิลเลย์ เป็นต้นตามแต่ลูกค้าต้องการ เราก็จะทำตามออเดอร์ที่เข้ามา แรกๆ ก็มีความกังวลในเครื่องการจำหน่าย แต่หลังจากออกสู่ตลาดไปแล้วมีกระแสตอบรับที่ดี โดยจำหน่ายผักทุกชนิดในราคากิโลกรัมละ 100 บาท หรือต้องการทานน้อยเราก็มีจำน่ายในราคา 50 บาทอีกด้วย ท่านใดที่สนใจในการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ปลอดสารพิษ สามารถเข้าไปที่ แฟนเพจ ผู้พัน ฟาร์มผักไฮโรโปนิกส์ ที่ติดต่อที่เบอร์โทรศัพท์ 093-4439797 หรือ 0981032426 ยินดีให้คำแนะนำทุกท่าน