เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ที่โรงเรียนสนามบินขอนแก่น ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายวิศรุต ปู่เพ็ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น เขต4 พรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่มอบนโยบายให้กับผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 โดยมีดยมีนายพันธ์เทพ เสาโกศล รอง ผวจ.ขอนแก่น ให้การต้อนรับ และผู้บริหารสถานศึกษา ครู และบุคคลากรในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการเข้าร่วมรับฟังการมอบนโยบาย
นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้ตนเองในฐานะรัฐมนตรีช่วยฯ เดินทางมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการศึกษา มารับฟังปัญหา มามอบนโยบายที่จะนำไปสู่การขับเคลื่อนการศึกษาให้ดียิ่งขึ้น และที่สำคัญคือ เรื่องความปลอดภัยภายใยโรงเรียน ที่ไม่ใช่เฉพาะความมั่นคงแข็งแรงของอาคารสถานที่ที่ รมว.กระทรวงศึกษาธิการมีความห่วงใย โดยให้แต่ละเขตพื้นที่การศึกษา สำรวจอาคารและอุปกรณ์ที่จะเป็นอันตราย เพื่อที่จะดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซม แต่ยังรวมไปถึงความปลอดภัยจากการคุมคามจากภายนอกโรงเรียน เช่น ปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมในทุกรูปแบบ
โดยกำชับให้ครูและบุคลากรภายในสถานศึกษาช่วยกันเป็นหูเป็นตา เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น อย่างกรณีล่าสุดที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนบ้านน้ำพุหินลาด ต.ทุ่งนาเลา อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เป็นเหตุให้มีครูได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนนักเรียนทุกคนปลอดภัย ก็ได้มีการสั่งการว่าทุกฝ่ายจะต้องช่วยกันป้องกันให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัย ต้องมีความพร้อมทั้งในเรื่องของรั่วรอบขอบชิด ประตูเข้าออกโรงเรียน รวมทั้งตัวของบุคคลากรต้องเข้มงวดในการเข้าออกของบุคคลภายนอก โดยให้บูรณาการความร่วมกับตำรวจและฝ่ายปกครอง
นายสุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีใบงานแฝงประกันภัยที่มีผู้ปกครองออกมาร้องเรียนนั้น ตอนนี้ได้มีการสั่งให้ตรวจสอบในภาพรวมทั้งประเทศ ซึ่ง รมว.ศึกษาธิการ ได้กำชับว่า จะต้องไม่เกิดกรณีแบบนี้ขึ้นอีกเด็ดขาด โดยได้มีการสอบสวนว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นโดยการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือ โรงเรียนมีส่วนรู้เห็น หากพบว่า โรงเรียนมีส่วนร่วมก็จะต้องมีการลงโทษตามระเบียบ ซึ่งการรักษาข้อส่วนบุคคลเป็นสื่งที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก