ข่าวการศึกษา

อุดรธานี หามนักเรียนชาย 8 รายส่ง รพ.หลังชวนกันกินผลโพธิ์ศรีท้องร่วงรุนแรง

เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 8 มีนาคม 2567 ศูนย์กู้ชีพโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโนนตูม ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี ว่ามีเด็กนักเรียนกินผลโพธิ์ศรีอินเดีย ภายในโรงเรียนบ้านหมากตูมดอนยานาง ต.นาข่า แล้วทำให้มีอาการอาหารเป็นพิษ ปวดท้องรุนแรงจำนวน 8 ราย หลังจากได้รับแจ้งแล้วจึงรีบไปพร้อมหน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลนาข่า และอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรม เมื่อไปถึงพบนักเรียนชาย 8 คน เป็นนักเรียนชั้น ป.4 จำนวน 7 คน ชั้น ป.6 จำนวน 1 คน อายุระหว่าง 10-12 ปี มีอาการอาเจียน ท้องร่วงรุนแรง เจ้าหน้าที่จึงรีบนำส่ง รพ.ศูนย์อุดรธานี และเมื่อถึง รพ.ศูนย์ฯ แพทย์นำตัวเข้าห้องฉุกเฉินเพื่อทำการรักษา โดยครูได้แจ้งผู้ปกครองนักเรียนให้เดินทางไปที่ รพ.ศูนย์ฯ ทันที

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงเรียนบ้านหมากตูมดอนยานาง ต.นาข่า พบครูและนักเรียนยืนอยู่ใต้ต้นโพธิ์ศรี ซึ่งปลูกอยู่ติดกับรั้วหน้าโรงเรียนจำนวน 3 ต้น มีผลสีเขียวออกเต็มต้น และผลแก่สีน้ำตาลล่วงหล่นที่พื้นดิน ได้พบกับ น.ส.ยุพิน หยงเมือง อายุ 55 ปี ผอ.โรงเรียนบ้านหมากตูมดอนยานาง ซึ่งได้เปิดเผยว่า โรงเรียนนี้เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล- ม.3 มีนักเรียน 167 คน ครู 15 คน เป็นโรงเรียนวิถีพุทธ เมื่อหลายสิบปีก่อน ชุมชนร่วมกับโรงเรียนนำต้นโพธิ์ศรีอินเดีย มาปลูกในโครงการธรรมสัญจร นอกจากจะปลูกในวัดแล้ว ได้นำมาปลูกในโรงเรียน 3 ต้น ตามวิถีชาวพุทธ ในช่วงพักกลางวัน มีเด็กนักเรียนชาย 3 คน ได้ชวนกันมาเล่นใต้ต้นโพธิ์ศรี ซึ่งผลสุกแล้วล่วงลงพื้น ซึ่งผลสวยงาม นักเรียนจึงเก็บมาแกะกินเมล็ด ซึ่งจะมีรสชาติคล้ายกับผลกระบก โดยที่นักเรียนไม่รู้ว่ามันมีพิษ

น.ส.ยุพิน ผอ.ฯ กล่าวต่อไปว่า หลังจากที่นักเรียนได้กินเข้าไปแล้วก็บอกว่าอร่อยดี จึงชวนเพื่อนมากินอีกรวม 8 คน ต่อมาเด็กนักเรียนมีอาการอาเจียน และท้องร่วงรุนแรง จึงนำเด็กนักเรียนส่งโรงพยาบาล เมื่อแพทย์ผู้รักษาได้สอบถามเด็ก จึงรู้ว่าเด็กไปกินผลโพธิ์ศรีภายในโรงเรียน ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 5-6 ปี เคยมีเด็กนักเรียน 1 คน กินผลโพธิ์ศรี แล้วเกิดอาการท้องร่วงรุนแรง และได้นำส่ง รพ.สต. แต่ก็ยังไม่ได้ตัดต้นโพธิ์ศรีทิ้ง ซึ่งครั้งนี้เด็กท้องร่วงถึง 8 คน ซึ่งหลังเกิดเหตุก็ได้ประชาสัมพันธ์ให้เด็กนักเรียนทราบว่า ผลของต้นโพธิ์ศรีมีพิษ รับประทานไม่ได้ และจะได้ประชุมกับคณะกรรมการสถานศึกษาว่า จะตัดต้นโพธิ์ศรีทิ้งหรือไม่

นายสราวุฒิ ภูกาบกล้วย อายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่มูลนิธิส่งเสริมธรรม กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากศูนย์สั่งการ 1669 โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีว่า มีเด็กนักเรียนอาหารเป็นพิษ ที่ รพ.สต.โนนตูม จึงนำกำลังพร้อมรถ 2 คันรุดไปตรวจสอบ พบว่ามีนักเรียนกินผลโพธิ์ศรี มีอาการปวดท้องรุนแรง บางคนปวดมากถึงกับร้องไห้ บางคนมีอาการธรรมดา อาจเพราะกินไม่มาก จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี

สำหรับต้นโพธิ์ศรี มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ทวีปอเมริกากลาง และอเมริกาใต้ แถบประเทศนิคารกัวจนถึงเปรู ปลูกไว้เป็นไม้ประดับ ให้ร่มเงา ตามสวนสาธารณะ วัดวาอาราม เข้ามาประเทศไทยเมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐาน คนไทยนิยมปลูกไว้ในวัด คงเพราะรูปร่างของทรงพุ่มและใบคล้าย “โพธิ์” นิยมปลูกในวัดและสถานที่ราชการ แต่ไม่ควรปลูกในสถานศึกษา ผลสวย เมล็ดกลมแบนคล้ายถั่วปากอ้า มีฤทธิ์ในการฆ่าแมลง หากรับประทานเข้าไปมีพิษอาจถึงตาย ครูและผู้ปกครองควรเตือนนักเรียน

หากกินผลเข้าไป 1-2 ผล จะทำให้เกิดอาการเคลื่อนไส้ อาเจียน ชีพจรเต้นเร็ว ตาพร่า ปวดท้อง ท้องร่วง และอาจมีเลือดปนออกมา หากรับพิษเข้าไปปริมาณมาก จะทำให้เกิดอาการเพ้อ ชัก หมดสติ และเสียชีวิตได้ การรักษา ก่อนนำส่งโรงพยาบาลควรให้ดื่มนมหรือผงถ่านเพื่อลดการดูดซึมของสารพิษ แล้วให้ส่งโรงพยาบาลล้างท้องทันที และให้น้ำเกลือทางเส้นเลือดเพื่อป้องกันการหมดสติและช็อคจากการสูญเสียน้ำและเกลือแร่