วิถีชีวิต

นครพนม พุทธศาสนิกชนตลอดจนนักท่องเที่ยว ร่วมทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะ รับแสงอรุณยามเช้าที่สวยงามริมฝั่งโขง

วันที่ 30 ตุลาคม 2566 ที่บริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช จังหวัดนครพนม บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มารอร่วมทำกิจกรรมตักบาตรเทโวโรหณะ ที่จังหวัดนครพนมโดยเทศบาลเมืองนครพนมจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีหลังวันออกพรรษา ที่มีการไหลเรือไฟให้ได้ชมความยิ่งใหญ่และงดงามวิจิตรตระกาลตา แม้ในปีนี้ทุกคนต้องรอนานกว่าปกติเนื่องจากเกิดเหตุฝนตกหนัก ทำให้การปล่อยเรือไฟล่าช้าออกไปกว่า 1 ชั่วโมง เมื่อการไหลเรือไฟแล้วเสร็จทั้ง 12 ลำ ก็กินเวลาไปจนถึง 1.00 น. แต่เมื่อถึงตอนเช้าทุกคนต่างก็มาเฝ้ารอทำกิจกรรมกันอย่างเนื่องแน่น โดยในเวลา 7.00 น. นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนางสงวน จันทร์พร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม ได้นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ตลอดจนประชาชน และนักท่องเที่ยว ประกอบพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ สามเณรที่มาบิณฑบาต โดยมีการจำลองเหตุการณ์เหมือนเมื่อครั้งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงมายังโลกมนุษย์ โดยมีการอัญเชิญพระพุทธรูปมาเป็นองค์ประธานนำคณะสงฆ์บิณฑบาตเพื่อโปรดพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมทำบุญในวันนี้ ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปถ่ายรูปเก็บบรรยากาศรับแสงอรุณยามเช้าริมฝั่งโขงที่มีความสวยงาม

สำหรับประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะถือเป็นประเพณีที่ชาวพุทธปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างยาวนานในการทำบุญตักบาตรในช่วงหลังวันออกพรรษา 1 วัน ตามความเชื่อของพุทธศาสนิกชน ที่มาจากตำนานการเสด็จลงจากเทวโลกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือหลังจากพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว โดยพระองค์ได้เสด็จไปประกาศศาสนาทั่วชมพูทวีป ตั้งแต่เมืองราชคฤห์ พาราณสี สาวัตถีตลอดถึงเมืองกบิลพัสดุ์ ซึ่งเป็นราชปิตุภูมิของพระองค์ ทรงเทศนาโปรดพุทธสาวกและพระประยูรญาติทั้งหลายให้บรรลุมรรคผลตามสมควรแก่อุปนิสัยของแต่ละบุคคลมาเป็นลำดับถึง 6 พรรษา จากนั้นพระองค์ทรงรำลึกถึงพระนางสิริมหามายาพระพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ดังนั้นในพรรษาที่ 7 หลังจากทรงตรัสรู้ พระองค์จึงได้เสด็จขึ้นไปจำพรรษาและทรงเทศนาพระอภิธรรมปิฎกโปรดพุทธมารดาเป็นระยะเวลา 3 เดือน ครั้นหลังออกพรรษา พระพุทธองค์ได้เสด็จลงสู่โลก โดยเสด็จสถิตเหนือยอดเขาสิเนรุราช มีเหล่าเทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายต่างพากันมาถวายเครื่องสักการบูชาเพื่อรับเสด็จพระพุทธองค์ ซึ่งระหว่างนั้นได้เกิดเหตุอัศจรรย์ คือ เทวดา มนุษย์ และสัตว์นรก ต่างมองเห็นซึ่งกันและกัน ดังนั้นในวันนี้จึงเรียกอีกชื่อว่า วันพระเจ้าเปิดโลก และเมื่อทรงเสด็จถึงโลกมนุษย์ที่เมืองสังกัสสนครใกล้กับเมืองพาราณสี พระพุทธองค์ได้ทรงนำเหล่าพุทธสาวกออกรับบิณฑบาตจากประชาชนที่ทราบข่าวและมาเฝ้ารอรับเสด็จ จึงเป็นที่มาที่พุทธศาสนิกชนถือเอาวันหลังออกพรรษา 1 วัน คือ วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 เป็นวันคล้ายวันเสด็จลงจากเทวโลก และพากันทำบุญตักบาตรโดยถือปฏิบัติสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน