วิถีชีวิต

ผู้ว่ากาฬสินธุ์ น้อมนำศาสตร์พระราชาสู่โคกหนองนาแก้ปัญหาอาหารขาดแคลนช่วงโควิด

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โมเดล ตามรอยศาสตร์พระราชา เผยเกษตรกรจะสามารถพัฒนาตนเองในการประกอบอาชีพและสร้างรายได้ บรรเทาความเดือดร้อนจากภาวะค่าใช้จ่าย และแก้ปัญหาขาดแคนอาหารในช่วงประสบสถานการณ์โควิด-19

 ที่บริเวณแปลงนานางมะลิ เคราะห์ดี บ้านเหล่ากลาง หมู่ 9 ต.กลางหมื่น อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า การจัดทำโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โมเดล โดยการปรับเปลี่ยนพื้นที่ที่เคยเป็นแปลงนา มาเป็นแปลงเกษตรผสมผสานตามรูปแบบของโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตฯ  ของกรมพัฒนาชุมชนและสำนักงานพัฒนาชุมชน จ.กาฬสินธุ์ โดยมีนายอุทัย สิงห์ทอง พัฒนาการ จ.กาฬสินธุ์ นายอัครพงษ์ เขียวแจ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ นายธนทร ศรีนาค ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ นายสมเจตน์ เต็งมงคล นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ นายพิชัย ฤทธิหาร พัฒนาการ อ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยส่วนราชการ ผู้นำชุมชน และเกษตรกร ร่วมโครงการ

นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โมเดล เป็นการดำเนินการตามรอยศาสตร์พระราชา โดยเป็นการทำเกษตรในพื้นที่ ที่มีขนาดจำกัด หรือขนาดเล็ก กิจกรรมมีการกักเก็บน้ำไว้ทั้งบนดิน ด้วยหนอง คลองไส้ไก่ และด้วยป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยเฉพาะในพื้นที่จำกัด อย่างน้อย 1 ไร่ หรือ 3 ไร่ หรือตามสภาพความเหมาะสม

นายทรงพลกล่าวอีกว่า จ.กาฬสินธุ์ โดยสำนักงานพัฒนาชุมชน จ.กาฬสินธุ์ ได้วางเป้าหมายในการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โมเดล อย่างเป็นรูปธรรม ตามรอยศาสตร์พระราชา บนพื้นที่ขนาด 1 ไร่ และ 3 ไร่ รวม 2,446 แปลง ขณะนี้ ได้ดำเนินการขุดเสร็จแล้ว จำนวน 1,456 แปลง โดยในวันนี้ ได้มาติดตามความคืบหน้าของแปลงเกษตรกรบ้านเหล่ากลาง ที่พื้นที่ 3 ไร่ เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน พร้อมให้กำลังใจเกษตรกร โดยเชื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้ เพิ่มผลผลิตให้ครัวเรือนได้พออยู่พอกิน   สามารถบรรเทาความเดือดร้อนจากภาวะค่าใช้จ่าย และแก้ปัญหาขาดแคนอาหารในช่วงประสบสถานการณ์โควิด-19  ได้เป็นอย่างดี     

        ด้านนางมะลิ เคราะห์ดี เกษตรกรบ้านเหล่ากลาง หมู่ที่ 9 ตำบลกลางหมื่น อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เดิมพื้นที่ทำนาปีละ 1 ครั้ง โดยอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก บางปีประสบภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง บางปีฝนตก  ประสบภัยน้ำท่วม ทำให้ผลผลิตข้าวได้น้อย ไม่คุ้มทุน จึงได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โมเดล กับสำนักงานพัฒนาชุมชน อ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อปรับเปลี่ยนพื้นที่นา ทำการเกษตรผสมผสาน ซึ่งในอนาคตจะมีทั้งพืชสวนชนิดต่างๆ  หน่อไม้ ไม้ผล มีการเลี้ยงปลา เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เพื่อเป็นอาหาร

นางมะลิกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามแปลงเกษตรแห่งนี้ ยังจะเปิดกว้างให้ชาวบ้านในชุมชน ได้นำผลผลิตไปกิน ไปใช้ร่วมกัน โดยตนจะต่อยอดจากโคก หนอง นา ตามศาสตร์พระราชา ไปสู่แหล่งเรียนรู้ ให้ทุกคนในชุมชน หรือผู้สนใจเข้ามาศึกษาเรียนรู้ร่วมกัน ซึ่งจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาอาหารขาดแคลนในช่วงประสบสถานการณ์โควิด-19 ทั้งนี้ตนเชื่อว่าการเกษตรแบบผสมผสานที่ทำอยู่นี้ สามารถไปต่อได้ เพราะเป็นอาชีพที่เลี้ยงครอบครัวได้ และยังแบ่งปันผลผลิตให้คนในชุมชน นอกจากนี้ ยังเป็นการสนองงานตามพระราชปณิธาน ในการสืบสาน รักษา ต่อยอด ให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง สามารถพัฒนาตนเองได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย