วิถีชีวิต

ผุดยุทธการโคกหนองนา แก้ปัญหาภัยแล้งสร้างอาชีพอย่างยั่งยืน

สำนักงานพัฒนาการจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ และมูลนิธิศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ น้อมนำศาสตร์พระราชา จัดโครงการโคกหนองนาพัฒนาเพื่อความยั่งยืน ปลูกไม้ยืนต้น ขุดบ่อ ทำนาและเกษตรผสมผสาน เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ แก้ไขปัญหาภัยแล้ง และสร้างอาชีพอย่างยั่งยืน

ที่แปลงนางรัศมี   ภูผาสุข บ้านเริงนาแก  หมู่ 6  ต.ไผ่ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายสมเจตน์   เต็งมงคล  นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์  เป็นประธานเปิดโครงการโคกหนองนาพัฒนาเพื่อความยั่งยืน กิจกรรม “เอามื้อสามัคคี” (ลงแขกแรกรัก)   โดยมีนายอุทัย สิงห์ทอง พัฒนาการ จ.กาฬสินธุ์ นายมีชัย   นาใจดี  พัฒนาการอำเภอเมืองกาฬสินธุ์  พร้อมด้วยผู้นำชุมชน เกษตรกร ร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก

นายสมเจตน์ เต็งมงคล นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทย  ได้มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน ได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักในการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน ตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจหลักของกรมการพัฒนาชุมชน คือการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชน ผ่านกระบวนการสร้างและพัฒนาผู้นำชุมชน ทั้งนี้ตั้งแต่ ปี 2552 ถึงปัจจุบันได้ยกระดับการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง พัฒนาเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ โดยได้ขับเคลื่อนการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง 369  หมู่บ้าน และตั้งเป้าในปี 2563 จำนวน  180  หมู่บ้าน รวม  549  หมู่บ้าน  ทั้งนี้ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ร่วมกับสำนักงานพัฒนาชุมชน อ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้คัดเลือกแปลงเกษตรของนางรัศมี ภูผาสุข ชาวบ้านเริงนาแก หมู่ 6  ต.ไผ่ อ.เมืองกาฬสินธุ์ เป็นอีก 1 เป้าหมาย และเปิดโครงการโคกหนองนาพัฒนาเพื่อความยั่งยืน กิจกรรม “เอามื้อสามัคคี” (ลงแขกแรกรัก)  ขึ้นเป็นจุดนำร่องของ อ.เมืองกาฬสินธุ์

ด้านนายอุทัย สิงห์ทอง พัฒนาการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในการดำเนินงานโครงการดังกล่าว กรมการพัฒนาชุมชนร่วมกับมูลนิธิศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ ขับเคลื่อนการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงด้วยโคก หนอง นา โมเดล โดยมีการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตรการพัฒนากสิกรรมสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียง แก่ประชาชนและบุคคลากรจากภาคส่วนต่างๆ ในพื้นที่ ซึ่ง จ.กาฬสินธุ์ ทั้งนี้ได้พิจารณาคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจ มีความพร้อมทั้งพื้นที่ แรงงานเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ ความเข้าใจในการประยุกต์ใช้ศาสตร์พระราชา ในการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเป็นศูนย์เรียนรู้เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยโคก หนอง นา โมเดล โดยกิจกรรม “เอามื้อสามัคคี” (ลงแขกแรกรัก) ประกอบด้วยการปลูกต้นไม้ การขุดคลองไส้ไก่ การห่มดินตามหลักกสิกรรมธรรมชาติ การถ่ายทอดองค์ความรู้ สามารถนำความรู้ไปปฏิบัติจริงได้อย่างถูกต้องตามหลักกสิกรรมธรรมชาติ สามารถพึ่งพาตนเองได้ นำไปสู่ชุมชนเข้มแข็ง มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

ขณะที่นางรัศมี ภูผาสุข อายุ 48 ปี กล่าวว่า ตนมีที่ทำกิน 21 ไร่ เนื่องจากอยู่นอกเขตชลประทาน การทำเกษตรกรรมอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก แต่ประสบปัญหาภัยแล้งซ้ำซาก ต้องลงทุนขุดบ่อกักเก็บน้ำไว้เพื่อการอุปโภค บริโภค และเลี้ยงสัตว์ เมื่อลงทุนสูง ผลผลิตไม่คุ้มทุน และทำให้เสียโอกาสในการสร้างรายได้ จึงได้เข้าร่วมโครงการโคกหนองนาโมเดลกับสำนักงานพัฒนาชุมชน อ.เมืองกาฬสินธุ์ มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็นสัดส่วน โดยพื้นที่สูงปลูกไม้ยืนต้นเพื่อเป็นโคก และปลูกพืชผสมผสาน ทำโรงเรือนเพาะเห็ด เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ พื้นที่ต่ำปรับปรุงหนองน้ำที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพในการกักเก็บน้ำเพิ่มมากขึ้น และที่ราบลุ่มเป็นแปลงนา ก็จะมีการฟื้นฟูคุณภาพดินให้มีคุณภาพ ทั้งนี้ ได้น้อมนำศาสตร์พระราชาเป็นแนวทางในการบริหารจัดการ โดยมีเพื่อนเกษตรกรในชุมชน สนใจเข้าร่วมโครงการ 80 ครัวเรือน จากการเข้าร่วมโครงการโคกหนองนาพัฒนาเพื่อความยั่งยืน จึงเป็นยุทธการที่จะเอาชนะภัยแล้ง และคาดว่าจะสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างอาชีพอย่างยั่งยืน