วิถีชีวิต

สมโภชพระสมณศักดิ์ต้นแบบวงการสงฆ์

ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์  คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนชาวอำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมพิธีสมโภชประกาศนียบัตรพัดยศ เปรียญธรรม 3 ประโยค พระมหาสุรสิทธิ์ ปัญญาวุฑโฑ พระลูกวัดต้นแบบด้านการศึกษา และเคร่งพระธรรมวินัย แห่งวงการสงฆ์เมืองกาฬสินธุ์

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 3 กรกฎาคม 2565 ที่ศาลาการเปรียญวัดห้วยสีทน ต.โพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระครูวรธรรมธัช ดร. เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (มหานิกาย) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พิธีสมโภชประกาศนียบัตรพัดยศ เปรียญธรรม 3 ประโยค พระมหาสุรสิทธิ์ ปัญญาวุฑโฑ โดยมีนายบำเพ็ญ จำเริญบุญ กำนัน ต.โพนทอง นายสิรเศรษฐ์ เวียงเพิ่ม ปลัดเทศบาลตำบลโพนทอง นายอดิเรก มานะกิจเจริญกุล ผู้ใหญ่บ้านห้วยสีทน พร้อมด้วยคณะสงฆ์สมณศักดิ์ พุทธศาสนิกชน ในเขต อ.เมืองกาฬสินธุ์ และใกล้เคียง รวมทั้งศิษยานุศิษย์ ญาติโยม ที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร ร่วมถวายมุทิตาจิต และร่วมพิธีบายศรีสู่ขวัญอย่างพร้อมเพรียง

พระครูวรธรรมธัช ดร. เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (มหานิกาย) กล่าวว่า ประวัติโดยสังเขปพระมหาสุรสิทธิ์ ปัญญาวุฑโฑ เป็นพระลูกวัดห้วยสีทน ปัจจุบันอายุ 61 ปี 11 พรรษา เดิมรับราชการครูที่ จ.มหาสารคาม ต่อมาได้เออร์รี่และอุปสมบท โดยจำพรรษาและปฏิบัติธรรมที่วัดห้วยสีทน ทั้งนี้ พระมหาพระสุรสิทธิ์ เป็นพระภิกษุที่มีความสนใจใฝ่ศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรมเป็นเลิศ  มีจริยวัตรและปฏิปทาอันงดงาม เคร่งในพระธรรมวินัย ควบคู่กับการศึกษาต่อยอดความรู้อยู่เนืองนิตย์ เป็นที่ชื่นชมในหมู่สงฆ์และเหล่าอุบาสก อุบาสิกา

“ล่าสุด มหาสุรสิทธิ์ ปัญญาวุฑโฑ สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค โดยสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก โปรดให้มีการสอบพระปริยัติธรรมสนามหลวง ประจำปี 2564 และได้รับใบประกาศเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 ทางคณะสงฆ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ จึงได้ร่วมกับคณะกรรมการวัดห้วยสีทน  ประชาชน จัดพิธีสมโภชประกาศนียบัตรพัดยศ เปรียญธรรม 3 ประโยค ถวายแด่พระมหาสุรสิทธิ์ ปัญญาวุฑโฑ ในครั้งนี้” พระครูวรธรรมธัช ดร. กล่าว

ด้านนายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า พระมหาสุรสิทธิ์ ปัญญาวุฑโฑนับได้ว่าเป็นต้นแบบของพระภิกษุสงฆ์ใน จ.กาฬสินธุ์ รวมทั้งในวงการสงฆ์ นอกจากนี้ยังถือเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชน ประชาชนทั่วไป ในการศึกษาเล่าเรียน เพื่อที่จะได้นำความรู้ มาพัฒนาตนเอง ให้มีความเจริญก้าวหน้า มีอาชีพที่มั่นคง เลี้ยงตนเองและครอบครัว ทั้งนี้ เพื่อที่จะได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมให้เจริญก้าวหน้า ซึ่งการศึกษาเล่าเรียนเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาชีวิตและประเทศชาติ โดยเฉพาะสังคมยุคปัจจุบัน ต้องการคนมีความรู้มาพัฒนาบ้านเมืองในทุกๆด้าน การศึกษาจึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น

นายวิรัช กล่าวอีกว่า ความสำเร็จของพระมหาสุรสิทธิ์ ที่สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค จึงเป็นต้นแบบที่ดีให้กับวงการสงฆ์และเยาวชน ประชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์ดังกล่าว เพราะเมื่อเยาวชนหรือประชาชนมีความรู้แล้ว ก็จะเป็นใบเบิกทางสู่การมีงานทำที่ดี มีอนาคตที่มั่นคง ขณะเดียวกันหากอยู่ในวงการสงฆ์ ก็จะได้นำความรู้ความสามารถนั้น  เป็นองค์ความรู้ไปใช้ในการปฏิบัติธรรม และอบรมประชาชน ให้สนใจใฝ่ธรรมะ ตามคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่จะเป็นแนวทาสร้างสังคมเกิดความสุขสงบร่มเย็นต่อไป ทั้งนี้ ตนพร้อมที่จะให้การสนับสนุน ทั้งในส่วนของการศึกษา ด้านศาสนา สังคม เพื่อที่จะทำให้ จ.กาฬสินธุ์ มีความเจริญก้าวหน้า ประชาชนมีการศึกษา มีคุณภาพชีวิตที่ดี  ได้รับการบริการด้านคมนาคมขนส่งที่ทันสมัย สะดวกสบาย รวมถึงด้านสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ ตามนโยบายพูดแล้วทำ