เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่มูลนิธิบัณฑิตคืนถิ่น “คืนคนดีให้ แผ่นดิน” ศูนย์ศึกษาและแก้ปัญหาความยากจนในชนบท บ้านชำม่วง ต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายสำรวย เกษกุล ผวจ.ศรีสะเกษ และคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมติดตามการดำเนินงานมูลนิธิบัณฑิตคืนถิ่น “คืนคนดีให้แผ่นดิน” ศูนย์ศึกษาและแก้ปัญหาความยากจนในชนบท ของ ดร.สมหมาย วันสอน และดร.เพ็ญศรี วันสอน ซึ่งเป็นภรรยา ผู้ปลูกป่ามูลค่าหลักสามสิบล้าน ซึ่ง ดร.สมหมาย วันสอน ได้ขับรถไถนำคณะของ ผวจ.ศรีสะเกษ เข้าไปชมภายในสวน เพื่อดูความก้าวหน้าของการดำเนินงานและชมไม้ผลจำนวนมากที่กำลังให้ผลผลิตออกมา ซึ่ง ผวจ.ศรีสะเกษ ได้ทำการตัดผลขนุนลูกใหญ่ และส้มโอที่กำลังใกล้สุกออกจากต้นด้วย โดยมี นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ พร้อมด้วย เกษตรอำเภอกันทรลักษ์ กำนันตำบลซำ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจเยี่ยมติดตามในครั้งนี้ด้วย
นายสำรวย เกษกุล ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ดร.สมหมาย วันสอน ผู้ก่อตั้งมูลนิธิบัณฑิตคืนถิ่น มีวัตถุประสงค์ให้บัณฑิตกลับมาทำงานให้กับถิ่นกำเนิดของตน เพื่อพัฒนาชุมชนของตนแก้ไขปัญหาความยากจนและเป็นผู้ปลูกป่าในเนื้อที่ดินกว่า 200 ไร่ ถือเป็นธนาคารป่าไม้โดยปลูกไม้หลายชนิด อาทิเช่น ทุเรียนภูเขาไฟ ไม้ยางพารา ลำไย มะขาม มะไฟ ส้มโอ ขนุน พะยุง มะค่า ยางนา กฤษณา สัก ตะเคียน ฯลฯ คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 30 ล้านบาท โดยถือเป็นต้นแบบของการดำเนินงานของเกษตรกร โดยมีการสอดแทรกแนวคิดการทำเกษตร ที่แตกต่าง พร้อมเพิ่มมูลค่าเหมาะกับการศึกษา การทำเกษตรกับธรรมชาติ พร้อมกับได้ปรัชญาชีวิตการดำเนินชีวิตแบบพอเพียงและอยู่แบบธรรมชาติพึ่งพิงธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์ ตนขอชื่นชม ดร.สมหมาย วันสอน และ ดร.เพ็ญศรี วันสอน ที่ได้ดำเนินการก่อตั้งมูลนิธิบัณฑิตคืนถิ่นนี้ขึ้นมา นับว่าเป็นมูลนิธิที่มีการดำเนินการได้ผลเป็นที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง
