ที่หอประชุมมรุกขนคร โรงเรียนนครพนมวิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดกิจกรรมโครงการรณรงค์ส่งเสริมค่านิยมความเป็นไทย และสืบสานมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม จังหวัดนครพนม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม
นายคมสิน ศรีมานะศักดิ์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมโครงการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้มิติทางวัฒนธรรมเป็นตัวเชื่อมความรัก ความสามัคคี และความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ สร้างการมีส่วนร่วมและพฤติกรรมนิยมไทยให้เกิดขึ้นในสังคม และสืบสานมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมด้วยพลังการมีส่วนร่วมของเครือข่ายทางวัฒนธรรม ซึ่งได้รับความร่วมมือจากสภาวัฒนธรรมอำเภอในจังหวัดนครพนม และเครือข่ายทางวัฒนธรรม มาร่วมกิจกรรมแสดงสาธิต จัดนิทรรศการ ประกอบด้วย ข้าวฮางบ้านหนาด เมี่ยงตาสวด ฟ้อนนางนกยูง ฟ้อนศรีโคตรบูรณ์ คลินิกภาษาไทย อาหารหมกจ๊อ/ขนมรังผึ้ง การฟ้อนรำเซิ้งผ้าขาวม้า การสาธิตการทำไม้กวาด การสานกระเป๋า (fashion) หมอลำกลอน อาหารหมอน้อย เครื่องดนตรีพื้นบ้าน พิณ โหวด แคน การทอเสื่อกก การสาธิตการทำผ้ามัดหมี่/ผ้าพื้นเมือง หมอลำย้อนยุค ข้าวต้มตดหมูตดหมา ผลิตภัณฑ์จากผ้า ฟ้อนรำกบิลบุรีศรีนาแก อาหารพื้นบ้าน แหนมเห็ดนางฟ้า รำแหย่ไข่มดแดง เซิ่งสวิง ผลิตภัณฑ์ผ้าพื้นเมืองย้อมโคลน/สีธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์มรดกภูมิปัญญาฯ เหล้าอุ อาหารข้าวปุ้นน้ำโน/กะปิ และการตัดเย็บกระเป๋าแฟชั่น โดยโครงการรณรงค์ส่งเสริมค่านิยมความเป็นไทย และสืบสานมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดนครพนมในวันนี้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จำนวนเงิน 60,000 บาท ในการดำเนินงานต่าง ๆ
นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า “การรักษาวัฒนธรรมคือการรักษาชาติ” เป็นพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ยังคงบ่งบอกถึงความหมายอันสำคัญที่คนไทยได้ยึดถือและให้ความสำคัญมาโดยตลอด ในการช่วยกันตระหนัก อนุรักษ์ สืบสานความเป็นไทย วัฒนธรรมไทย ในมิติต่างๆ ทั้งในภาครัฐและภาคประชาชน โดยจังหวัดนครพนม เป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนานกว่า 200 ปี มีชนเผ่าหรือกลุ่มชาติพันธุ์ 9 ชนเผ่า 2 เชื้อชาติ มีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย ซึ่งที่นำมาแสดง มาสาธิตในวันนี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง การร่วมด้วยช่วยกันจึงเป็นเรื่องที่ดี
งานวัฒนธรรม ปัจจุบันรัฐบาลได้ให้ความสำคัญและพยายามขับเคลื่อน โดยมองว่าเป็น Soft Power ให้วัฒนธรรมเป็นทุนเริ่มต้นที่จะนำไปสู่การต่อยอดทางเศรษฐกิจ เพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ของชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป ไม่ว่าจะเป็น อาหาร ผ้าพื้นเมือง ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะการต่อสู้ ศิลปะะหัตถกรรม เป็นต้น และขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในการจัดงานในครั้งนี้ ที่ขาดไม่ได้คือการให้เด็กและเยาวชนได้เข้ามามีส่วนร่วม เพราะเขาจะเป็นรุ่นต่อไปที่จะช่วยสืบสานสิ่งต่างๆ ให้ยั่งยืนสืบไป