ข่าวการเมือง

สุรินทร์ สุดทน สาวอบต.ถ่ายคลิประบายความในใจถูกกลั่นแกล้งรังแก ขณะที่นายกโต้ปกครองคนตามหลักธรรมมาภิบาล

วันนี้ 4 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงายว่า จากกรณีผู้ใช้ Tiktok ชื่อว่า “tamchanai555” ได้โพสต์คลิป พร้อมระบุชื่อคลิปว่า “เหตุเกิดเมื่อวันที่27 พฤศจิกายน2566 เวลา08.45น. นายกกับเมียมาหลังหนู และเพื่อนร่วมงานอื่นๆก็มาหลังเวลา08.30น. #ข้าราชการส่วนท้องถิ่น #ศูนย์ดำรงธรรม #ป้อกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ #ระเบียบบริหารราชกาลแผ่นดิน #สายไหมต้องรอด #สายไหมต้องรอด #กันจอมพลัง #โหนกระแส” โดยในคลิประบุ

โดยเนื้อหาคร่าวๆภายในคลิปว่า เจ้าของคลิปได้พูดว่า ตนโดนรังแกกลั่นแกล้งในที่ทำงาน นายกเอาเมียมาจับจ้องตนคนเดียวมีหน้าที่อะไร และมาอยู่ในกลุ่มไลน์อบต.ด้วยมีตำแหน่งไรใช้ไฟใช้น้ำในอบต.ทุกคนก็รู้ก็เห็นแต่ทำอะไรไม่ได้ หลังจากคลิปดังกล่าวถูกโพสต์ลงTiktok ทำให้โซเชียลต่างแห่มาคอมเม้นกันอย่างต่างๆนาๆ และมียอดวิวมากถึง3ล้านวิวชั่วข้ามคืน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปหาเจ้าของช่องหรือคนโพสต์คลิปดังกล่าว ชื่อ นางเกศรา ยศวิจิตรไพศาล อายุ 41 ปี ตำแหน่ง พนักงานจ้างตามภารกิจ (ผู้ช่วยนักพัฒนาชุมชน) ขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองเหล็ก อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ได้ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ต่อมาทางทีมข่าวได้เดินทางไปที่ อบต.หนองเหล็กเพื่อสัมภาษณ์ นายบรรยาย นพพิบูลย์ “นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเหล็ก” เพื่อสัมภาษณ์เสียงอีกฝ่าย

นาง เกศรา ยศวิจิตรไพศาล อายุ 41ปี (คนโพสต์คลิป) เล่าว่าเหตุผลลึกๆของเรื่องมากจากทางคุณพ่อของเธอนั้นเป็นอดีตนายยก อบต.หนองเหล็กคนเก่าที่เพิ่งพ้นวาระ ตนไม่เคยมีเรื่องราวบาดหมางกับใครในที่ทำงาน แต่โดนกลั่นแกล้งมาโดยตลอดหลักๆจะเป็นเรื่องของเวลาการมาทำงานขาดลามาสาย คาดว่าน่าจะบีบทีมเก่าออกให้หมด ถ้าว่าตนขาดลามาสายบ่อยอยากให้เอาหลักฐานมาพิสูจน์ เอกสารเวลาเซ็นซื่อจะมีคนเก็บ อยากให้เอามาชี้แจง ตลอดการทำงานรู้สึกกดดันมาก ทั้งเรื่องของเมียนายกเอากล้องวงจรปิดมาคอยจับผิดตั้งแต่วันแรกที่มาประจำอยู่ที่นี้จนถึงทุกวันนี้ วันนี้เมียนายกไม่มาแถมยังล็อคห้อง ห้องนี้เป็นห้องปลัดเก่า ที่หลายคนจะเรียกว่าชื่อว่า “ห้องคุณยาย”เป็นห้องที่เมียนายกมาอยู่ ที่ตนรับไม่ได้ก็คือ การตัดคะแนนที่ไม่โปรงใส ทั้งที่ไม่มีการประชุมกลั่นกรองรอบสุดท้าย พยายามปัดให้คะแนนตก เพื่อจงใจจะเอาเธอออก แต่ตนก็ต้องทนทำงานเพราะมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบในครอบครัว ที่วันนี้นได้ำลฟ์สดเพราะสุดจะทนกับพฤติกรรมของคนนอกและนายกที่พยายามจะกดดันเธอตลอดมา

สัมภาษณ์ นายสุระพัน มีสติ อายุ 54 ปี (ปลัดอบต.หนองเหล็ก) เล่าว่า ตนยายมาจากอบต.ทับทันอำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ตนมีปัญหากับนายกคนนี้เหมือนกัน นายกคนนี้ชอบสร้างความเดือดร้อนให้กับลูกน้องที่อยู่ในองค์กร โดยใช้อำนาจบาดใหญ่ตำแหน่งในการข่มเหงไม่ยอมรับตนเองปิดและปิดบังข้อมูล เพื่อให้ตนเองนั้นถูกต้อง และเอาภรรยามายุ่งเกี่ยววุ่นวายในองค์กรมาทุกวันเหมือนกับข้าราชการคนอื่น และไม่มีตำแหน่งอะไรชอบมายุ่งเกี่ยวกับองค์กรณ์ขมเหงรังแกคนในหน่วยงานประจำ ใช้น้ำใช้ไฟหลวงเป็นประจำ และมันสมควรเป็นแบบนั้นไหม

สัมภาษณ์ นายบรรยาย นพพิบูรณ์ อายุ 73ปี (นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเหล็ก) เล่าว่า ที่มีข่าวว่ามีการแต่งตั้งภรรยาตนเป็นเลขานายกไม่ใช่ความจริง โดยความจริง นางเพ็ญศรี นพพิบูลอายุ74 ปี(ภรรยา) มีตำแหน่งเพียงประธานชมรมผู้สูงอายุ ประจำองค์การบริหารตำบลหนองเหล็ก มีหน้าที่ประสานเรื่องผู้สูงอายุเท่านั้นและมาช่วยงาน ส่วนที่มีการประเมินหักคะแนนเพราะว่า คนโพสต์มีการขาดลามาสายบ่อยและเวลาทำงานมักจะไม่ชอบอยู่กับที่ชอบเดินไปทั่วในอบต. ตนทำงานในองค์กรเหมือนลูกหลาน ในกรณีที่พนักงานขาดลามาสาย นายกก็มีสิทธิ์ที่จะตรวจสอบใบลา มีใบรับรองแพทย์เพื่อความถูกต้องเท่านั้นเอง ก็ถ่ายคลิปเอาไปโพสต์ใหญ่เลย ส่วนคนประเมินมีอยู่หลายคนและไม่ผ่านมีอยู่ 3คน ที่ประเมินก็ประเมินตามสภาพความถูกต้อง

ด้าน สัมภาษณ์ นายกิตติ สัตย์ซื่อ นายอำเภอศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ตามที่มีคลิปผู้ช่วยนักพัฒนาชุมชน เจ้าพนักงานอัตราจ้าง ได้ไลฟ์สดกรณีภรรยานายก อบต.หนองเหล็ก อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ได้เข้ามาวุ่นวายภายในองค์กรของ อบต.หนองเหล็ก ซึ่งไม่มีตำแหน่งใดๆของ อบต.หนองเหล็ก พร้อมทั้งได้มาจับผิดเจ้าหน้าที่ที่ทำงานกันอยู่ และนายก อบต.หนองเหล็กกลั่นแกล้งต่าง ๆ นานา นั้น ทางอำเภอไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังจากทราบเรื่องได้ทำหนังสือไปยัง อบต.หนองเหล็ก ให้ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงรายงานมายังอำเภอ ซึ่งทางอำเภอได้ทำหนังสือไปเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ในส่วนของผู้ช่วยนักพัฒนาชุมชน เจ้าพนักงานอัตราจ้างที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ทำให้องค์กรวุ่นวายกันในด้านการทำงาน จะย้ายหรือพักงานหรือให้ออกจการาชการนั้นทำไม่ได้เพราะเป็นเจ้าพนักงานอัตราจ้าง(ลูกจ้างชั่วคราว) ซี่งทางอำเภอไม่อำนาจที่จะให้พักงานหรือให้ออกจากงาน โดยจะอยู่ที่นายก อบต.หนองเหล็กเท่านั้นที่จะตัดสินลงโทษเรื่องดังกล่าวต่อไป ส่วนทางอำเภอนั้นก็จะให้ความเป็นธรรมทั้ง สองฝ่าย