วันที่ 3 ก.พ. 2567 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ผู้บริหารกรมทางหลวง และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ จ.มหาสารคาม เพื่อติดตามโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม และโครงการพัฒนาโครงข่ายสำตัญในพื้นที่ จ.มหาสารคาม เพื่อเชื่อมต่อไปยังจังหวัดใกล้เคียง ตลอดจนรับฟังปัญหาการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงในพื้นที่ และวางแนวทางการแก้ไขบรรเทารความเดือนร้อนแก่ประชาชน
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2024/02/425349629_785779943595320_6221349065144599699_n_0-1024x682.jpg)
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2024/02/425369505_785780030261978_1118678433680676090_n_0-1024x682.jpg)
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2024/02/425526836_785779610262020_3061451693266623006_n_0-1024x576.jpg)
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2024/02/425571321_785779650262016_8435407027876233551_n_0-1024x576.jpg)
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2024/02/425664358_785779540262027_553505368161254690_n_0-1024x576.jpg)
โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะได้เข้ากราบนมัสการ พระวชิรญาณวิศิษฏ์ วิ. (สุริยันต์ โฆสปญฺโญ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาชัย พระอารามหลวง ประธานสงฆ์วัดพุทธวนาราม (วัดป่าวังน้ำเย็น) เพื่อความเป็นสิริมงคลและรับฟังแนวทางการพัฒนาเส้นเพื่อให้ประชาชนได้เดินทางมาแสวงบุญและกราบสักการะสิ่งศักดิ์ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยในแต่ละวันจะมาพุทธศาสนิกชนเดินมาทางมาที่วัดแห่งนี้ไม่ต่ำกว่าวันละ 5,000 คน และในวันหยุดจะมีผู้คนหลั่งไหลมาท่องเที่ยวที่วัดนับหมื่นคน ซึ่งถือเป็นการพัฒนาการท่องเที่ยวของ จ.มหาสารคามและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
ต่อมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะ ได้เดินทางมาที่ ห้องประชุมพระธาตุนาตูณ สำนักงานทางหลวงที่ 8 (มหาสารคาม) เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้าและรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานของโครงการ สำคัญต่าง ๆ ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ตามนโยบายส่งเสริมและพัฒนาระบบโครงข่ายถนนให้ครอบคลุมความต้องการเดินทางของประชาชนด้านถนนและโครงข่ายคมนาคมที่ต้องช่วยลดระยะเวลาการเดินทาง ลดต้นทุนการขนส่ง และมีโครงข่ายที่ส่งเสริมต่อภาคการเกษตร การท่องเที่ยว การค้า การลงทุน แหล่งอุตสาหกรรม และสามารถบูรณาการกับระบบขนส่งได้ในทุกมิติ ลดระยะเวลาต้นทาง – ปลายทาง และเพื่อให้การอำนวยความสะดวกปลอดภัยให้ประชาชนในพื้นที่ได้ใช้งานอย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะโครงการสำคัญในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ทางเสี่ยงเมืองมหาสารคาม (ต้านทิศตะวันออก) ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการจราจรในเขตเมือง และเดินทางไปติดตามโครงการแก้ไขปัญหาตลิ่งริมแม่น้ำชีทรุดตัว ถนนทางหลวงหมายเลข 213 ซึ่งเป็นเส้นทางที่อยู่ติดแม่น้ำชี ขาเข้าเมืองมหาสารคาม ใกล้สี่แยกวังยาว บ้านดินดำ ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม ซึ่งถนนทรุดตัว-ดินสไลด์ยาว 72 เมตร ส่งผลให้พื้นที่ไหล่ทางได้รับความเสียหายขนาด 1 ช่องจราจร ให้ต้องปิดเส้นทางฝั่งขาเข้าเมือง มาใช้เป็นช่องจราจรคู่ขนานร่วมกับถนนฝั่งขาออก จนเกิดปัญหาการจราจรติดขัดในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน
ด้านนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะลงพื้นที่ จ.มหาสารคาม เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาและรับฟังเสียงสะท้อนต่อการใช้ถนนและเส้นทางคมนาคมของพี่น้องประชาชน ที่มีความต้องการขยายถนนโครงข่ายระหว่างอำเภอจาก 2 เลนเป็น 4 เลน เพื่อรองรับการจราจรขยายตัวของเมืองมหาสารคาม ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสะดืออีสาน เพราะว่าอยู่จุดกึ่งกลางของภาคอีสาน โดยการพัฒนาเส้นทางคมนาคมนี้จะรองรับการขนส่งในอนาคต และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ในส่วนของแผนการดำเนินการก่อสร้าง “สนามบินสารสินธุ์” ที่เล็งทำเลสถนที่ก่อสร้าง ในพื้นที่รอยต่อ 2 จังหวัดกาฬสินธุ์-มหาสารคาม ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษา EIA อยู่ ซึ่งในรัฐบาล ตั้งเป้าจะให้เกิดขึ้นตามแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทางน้ำ ทางบก และทางอากาศ
ในส่วนโครงการแก้ไขปัญหาตลิ่งริมแม่น้ำชีทรุดตัว ถนนทางหลวงหมายเลข 213 ได้อนุมัติงบประมาณก่อสร้างแล้วจำนวน 4,467,000 บาท โดยแขวงทางหลวงมหาสารคามได้ว่าจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างตอกเสาเข็ม ทำผนังคอนกรีต และเร่งปรับปรุงถนน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน ซึ่งตามแผนงานคาดว่าใกล้จะแล้วเสร็จและจะเปิดให้ใช้งานได้ตามปกติในระยะเวลาอันใกล้นี้ พร้อมของบประมาณ 70 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาป้องกันคันทางริมแม่น้ำชีพังในระยะยาว เพิ่มความสะดวก ปลอดภัยแก่ผู้ใช้ทางซึ่งมีทั้งประชาชนนิสิต และนักศึกษาสัญจรผ่าน จำนวนวันละเกือบ 2 หมื่นคัน