ข่าวการเมือง

ครูแก้ว “ศุภชัย โพธิ์สุ” ลั่นฟ้องเพื่อไทยปมปราศรัยใส่ร้ายป้ายสีเรื่องกัญชาเสรี เลือกภูมิใจไทยได้ประยุทธ์เป็นนายก

วันที่ 2 พ.ค. 2566 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย นครพนม นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ผู้สมัคร ส.ส. พรรคภูมิใจไทย เขต 2 ของจังหวัดนครพนม ได้เปิดแถลงข่าวกรณีที่พรรคเพื่อไทยได้จัดปราศรัยใหญ่ที่สนามโรงเรียนนครพนมวิทยาคม โดยนายเศรษฐา ทวีสิน ได้กล่าวบนเวทีตอนหนึ่งเรียกร้องให้ชาวบ้านเลือกพรรคเพื่อไทยทั้งคนและพรรค หากเลือกผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย ก็จะได้นายกเป็นประยุทธ์ จันทร์โอชาอย่างแน่นอน นอกจากนั้นยังได้กล่าวถึงนโยบายกัญชาของพรรภูมิใจไทย ว่าถ้าหากเลือกพรรคภูมิใจไทย เข้าสภา ก็จะผลักดันนโยบายกัญชาเสรีมามอมเมาลูกหลานและประชาชน

นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า การกล่าวเช่นนั้นของนายเศรษฐา ทวีสิน ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในข้อเท็จจริงซึ่งถือว่าเป็นการใส่ร้ายกัน โดยเฉพาะที่พูดว่าถ้าเลือกครูแก้วและพรรคภูมิใจไทย ก็จะนำกัญชาเสรีมามอมเมาลูกหลานเยาวชนชาวนครพนม ประเด็นนี้ตนถือว่าเป็นการใส่ร้ายอย่างรุนแรงและไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยข้อเท็จจริงแล้วนโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทยคือนโยบายกัญชาทางการแพทย์และเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจซึ่งนโยบายกัญชาทางการแพทย์ถือว่าประสบผลสำเร็จเพราะขณะนี้ในทุกโรงพยาบาลเราได้มีคลีนิคกัญชาทางการแพทย์เป็นที่เรียบร้อยเกือบทุกโรงพยาบาล และก่อนหน้านี้กัญชาได้ถูกถอนออกจากการเป็นยาเสพติดเป็นที่เรียบร้อย โดยผ่านสภาด้วยเสียงอย่างเป็นเอกฉันท์ ทั้งสองสภา พรรคเพื่อไทยเองก็โหวดสนับสนุนให้ผ่านกฏหมายดังกล่าว โดยให้ปลดล็อคเอากัญชา กัญชง และกระท่อมออกจากยาเสพติดประเภท 5 หลังจากนั้นทางพรรคเพื่อไทยก็เสนอกฎหมายเพื่อควบคุมกัญชาเพื่อต่อยอดกรณีดังกล่าว แต่เมื่อเห็นว่ากรณีดังกล่าวพรรคภูมิใจไทยจะได้คะแนนนิยมอย่างมหาศาล พรรคการเมืองบางพรรคเช่นพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ก็คัดค้านร่าง พระราชบัญญัติควบคุมกัญชาจนไม่สามารถผ่านสภาได้ เนื่องจากส.ส.บางพรรคไม่ยอมเข้าประชุมจนสภาไม่ครบองค์ประชุมในที่สุด พระราชบัญญัติดังกล่าวจึงไม่สามารถผ่านสภาออกมาบังคับใช้ได้ ตนจึงอยากบอกนายเศรษฐา และพรรคเพื่อไทยว่า ขณะนี้กัญชาและกัญชง ไม่ได้เป็นยาเสพติดแล้ว เพราะฉะนั้นการที่นายเศรษฐา ออกมาพูดจึงเป็นการใส่ร้ายป้ายสีเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงแก่พี่น้องประชาชน ซึ่งผิดกฏหมายเลือกตั้งอย่างแน่นอน

“อีกประเด็นหนึ่งคือการป่าวประกาศว่าถ้าเลือกครูแก้วและพรรคภูมิใจไทยเข้าไปก็จะได้พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งข้อเท็จจริงไม่ใช่อย่างนั้น พรรคภูมิใจไทยได้เสนอหัวหน้าพรรคคือนายอนุทิน ชาญวีระกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวเท่านั้น หากพรรคได้รับเลือกด้วยคะแนนเสียงข้างมาก ดังนั้นการที่นายเศรษฐา กล่าวจึงเป็นการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จแก่พี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งภายในวันสองวันนี้ตนจะให้ฝ่ายกฎหมายของตนได้สรุปข้อมูลแล้วจะเข้ายื่นร้องกับ กกต.จังหวัดนครพนม เพื่อเอาผิดพรรคเพื่อไทยต่อไป”