ข่าวการเมือง

ขอนแก่น “ณัฐวุฒิ” เว้าอีสานขอคะแนนคนขอนแก่นเลือก พท.ยกจังหวัดหลังผลโพลทุกสำนัก ให้ พท.ได้ สส.เขตมากที่สุดของประเทศ พร้อมระบุคุณตาอยากกลับมาเลี้ยงหลานแล้ว แต่จะมาช่วงไหนและเวลาใด ยังตอบไม่ได้ ยืนยัน ถ้า พท.แกนนำหลักจัดตั้งรัฐบาล นายกรัฐมนตรี ต้องเป็นคนของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 5 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตลาดอู้ฟู่ ริม ถ.มิตรภาพ ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย และผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย,นายเสริมศักดิ์ พงษ์พาณิชย์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำแกนนำของพรรคเพื่อไทย ร่วมปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครของพรรค ประกอบด้วย นายชัชวาล พรอมรธรรม ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 1 พรรคเพื่อไทย และ น.ส.รัมภามาศ ฑีฆธนานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 2 ท่ามกลางการต้อนรับของประชาชนชาวขอนแก่น ที่มาร่วมรับฟังการปราศรัย กว่า 5,000 คน

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย และผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มาขอนแก่น 2 เดือน 2 ครั้งมาปราศรัยช่วยผู้สมัครของพรรคที่ขอนแก่น ได้รับการตอบรับและเสียงการตอบรับที่ดีมาก ผลโพลล่าสุดวันนี้ ระบุชัดเจนแล้วว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส.เขต มากเกือบ250 คน ถ้าเป็นเช่นนี้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อก็จะได้เพิ่มขึ้นมาอีก ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่ชัดเจนที่สุด จึงขอให้คนขอนแก่นเลือกผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยขอนแก่นทั้งจังหวัด

“รองนายกวิษณุ มาพูดถึงสูตรการจัดตั้งรัฐบาลแสดงให้เห็นชัดเจนว่ามีการวางแผนที่ทางการเมืองไว้แล้ว และพยายามที่จะตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ดังนั้น ปี 62 ที่ผ่านมาเราได้ ส.ส.เสียงข้างมากแต่ก็ตั้งฐบาลไม่ได้ เลือกตั้งครั้งนี้คนทั้งประเทศต้องเลือกพรรคเพื่อไทยให้มากที่สุดเพื่อไม่ให้ไปแพ้กับเสียง สว.ที่เค้าวางไว้แล้ว”

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่ออีกว่า พรรคยืนยันชัดเจนว่าเมื่อเราได้ ส.ส.เยอะที่สุดและเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายกรัฐมนตรีต้องเป็นคนของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น นโยบายหลักในการบริหารประเทศต้องเป็นของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ซึ่งพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล เราทำงานด้วยกันมานาน และอยู่ในฝั่งประชาธิปไตยที่เหนียวแน่น ดังนั้นการจัดตั้งรัฐบาลพรรคฝั่งประชาธิปไตยจะเป็นแกนนำหลักจัดตั้งรัฐบาลเท่านั้น

“วันนี้คุณทักษิณอยากกลับบ้านมาเลี้ยงหลานแล้ว ซึ่งเป็นความต้องการของครอบครัว ท่านเหงาและเป็นความต้องการของผู้สูงอายุที่อยากกลับบ้านมาเลี้ยงหลาน ที่มีถึง 7 คน โดยไม่มีนัยยะการเมืองใดๆ และจะมาตอนไหนและเวลาใดยังบอกไม่ได้ จึงขอทำหน้าที้ในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ให้เข้มข้น ซึ่งคณะทำงานของพรรคเพื่อไทยทุกคน ไม่มีเหนื่อย ไม่มีท้อ ไม่มีวันหยุด. ทำงานทุกวันจนถึงวันเลือกตั้งทุกคน”