ข่าวการเมือง

ผวจ.นครพนม เร่งแก้ปัญหาความเข้าใจคลาดเคลื่อน หลังบ้านเลขที่ 1 เป็นเหตุ

บรรยากาศการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นไปด้วยความคึกคักของประชาชนที่เดินทางมาใช้สิทธิในหน่วยเลือกตั้งต่าง ๆ กันอย่างต่อเนื่อง โดยที่หน่วยเลือกตั้งที่ 20 เขตเลือกตั้งที่ 2 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง ซึ่งสถานที่เลือกตั้งอยู่ที่วัดโพธิ์ศรี ได้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ด้วยในหน่วยนี้มีบ้านเลขที่ 1 จำนวน 2 หลัง แต่จะอยู่กันคนละซอย ทำให้ผู้ที่มาใช้สิทธิเกิดความเข้าใจผิดหลังมาตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่หน้าหน่วย ด้วยเห็นว่าบ้านเลขที่ 1 ไม่มีชื่อของตัวเอง แต่กลายเป็นชื่อของคนอื่นอีก 4 รายชื่อ ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าบ้านเลขที่ของตัวเองโดนคนอื่นมาสวมสิทธิ จึงได้เดินทางมาสอบถามกับนายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และ นายสมพล พงษ์พิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม ที่กำลังตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้งที่บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองนครพนม

โดยเมื่อรับทราบปัญหาดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม ได้มีการสอบถามรายละเอียดทั้งหมดที่เกิดขึ้น พร้อมกับขอดูบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อนำหมายเลข 13 หลักมาตรวจสอบผ่านระบบออนไลน์สำนักบริหารการทะเบียน ของกรมการปกครอง ทำให้ทราบว่านายเชิดชายมีสิทธิอยู่ที่วัดโพธิ์ศรี ในลำดับที่ 122 ตรงตามที่มีหนังสือแจ้งไปที่บ้าน จึงได้มีการประสานไปยังหน่วยเลือกตั้งอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบอีกครั้งว่าเหตุใดจึงไม่มีรายชื่อ ทำให้ทราบว่าในหน่วยเลือกตั้งดังกล่าว มีบ้านเลขที่ 1 จำนวน 2 หลัง ในเอกสารรายชื่อที่ติดประกาศ โดยบ้านเลขที่ 1 หลังแรกจะอยู่ที่ซอยศรีเชียงใหม่ มีรายชื่อผู้มีสิทธิ 4 ราย ส่วนบ้านเลขที่ 1 ของนายเชิดชายผู้ร้องเรียนอยู่ที่ซอยพิพิจพจนา และมีเพียงรายชื่อเดียวตรงตามที่เจ้าตัวแจ้ง จึงได้ชี้แจงทำความเข้าใจเพื่อให้ได้กลับไปใช้สิทธิตามปกติ และในโอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้มีการสั่งการกำชับไปยังคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วยในการให้บริการประชาชน ขอให้ตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดให้ดี ให้มีความรอบคอบถี่ถ้วน เช่นรายนี้ แม้จะมีการสอบถามรายละเอียดผู้มาใช้สิทธิแล้ว แต่ไม่ได้ขอดูบัตรประจำตัวประชาชนในขั้นตอนของการตรวจรายชื่อเนื่องจากเข้าใจว่าน่าจะมีบ้านเลขที่ 1 แค่หลังเดียวในหน่วยเลือกตั้งจึงทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนกัน จนผู้มาใช้สิทธิเกิดความตกใจ เข้าใจผิดคิดว่ามีการสวมสิทธิเกิดขึ้นทั้งที่ในความเป็นจริงไม่ใช่ ส่วนการติดตามเยี่ยมตามหน่วยเลือกตั้งอื่น ๆ ยังไม่พบมีประเด็นร้องเรียนเข้ามาแต่อย่า