วันที่ 12 พ.ย. 2566 ที่ งานสมโภชศาลเจ้าปึงเถ่ากง-ม่า ขอนแก่น ประจำปี 2566 จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว ภาพยนตร์แนวแฟนตาชีระทึกขวัญและแอคชั่น “4 ขมัง” ถ่ายทำที่จังหวัดขอนแก่นทั้งเรื่อง โดยมี นายอภิชา กิตติสุวรรณ์ ประธานจัดงานศาลเจ้าปึงเถ่ากงม่า ผู้ลงทุนสร้าง และทีมผู้ร่วมลงทุน ,นางกุลกานต์ แมมเบอร์ ผู้ร่วมเขียนบท และ ผู้กำกับภาพยนตร์,นายณไทย ภัทรกวีกานท์ ผู้ร่วมพัฒนาบท ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาวัฒนธรรมอีสาน, นางสาวนิด้า พาร์คิน (นิกิต้า) นักแสดง,นางสาว Jasmine Ackharath (จัสมิน) MRS.World Laos 2020 นักแสดง ร่วมแถลงข่าว ภาพยนตร์ 4 ขมัง
เพื่อส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมของขอนแก่น ให้มีความน่าสนใจจนนำมาสู่การท่องเที่ยวในจังหวัดขอนแก่น โดยคณะผู้กำกับภาพยนตร์ 100 ล้าน อย่างนายธนิตย์ จิตนุกุล ผู้กำกับ บางระจัน, นายปรัชญา ปิ่นแก้ว ผู้กำกับ ต้มยำกุ้ง, องค์บาก, นายบัณฑิต ทองดี ผู้กำกับ พุ่มพวง มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้และผู้กำกับหน้าใหม่อย่าง นางกุลกานต์ แมมเบอร์ซึ่งเป็นชาวขอนแก่น ได้มาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการตัดต่อ คาดว่าจะได้รับชมกลางปี 2567 นี้
นางกุลกานต์ แมมเบอร์ ผู้ร่วมเขียนบท และ ผู้กำกับภาพยนตร์ เปิดเผยว่า หนังเรื่องนี้มีความพิเศษผสมผสานของวัฒนธรรมเก่าแก่และความเป็นปัจจุบันที่น้องนักแสดงเป็นคนรุ่นใหม่ ที่จะแสดงถ่ายทอดออกมา ซึ่งมีความมั่นใจว่าจะโดนใจของท่านผู้ชม ซึ่งขอนแก่นนั้นมีภาพของอีสานและเน้นเอาวัฒนธรรมหลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกาย เสื้อผ้า อาหารและชีวิตวิถีผู้คนวัฒนธรรมทุกอย่างมารวมกันและทุกอย่างจะรวมอยู่ในหนังเรื่องนี้อย่างไรก็ตามสิ่งที่เราคิดว่าในแง่ของคนดูจะสนุกและจะได้รับสิ่งที่เราสอดแทรกเข้าไปอย่างกลมกลืน การทำเรื่องนี้จะเป็นภาพยนตร์ที่รวมทุกสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของคนขอนแก่นแสดงออกมาให้เป็นภาพยนตร์และเป็นที่จดจำ
“ภาพยนตร์เรื่อง 4 ขมัง เป็นภาพยนตร์แนวแอคชั่นแฟนตาซี พูดถึงวัฒนธรรม ความเชื่อนำเอาสิ่งที่เป็นสมบัติของขอนแก่นมาเรียงร้อยผ่านเรื่องราวที่สนุกสนาน ร่วมสมัยให้คนดูได้เข้าใจและมีความรู้สึกร่วมไปได้ ซึ่งการสร้างหนังในเรื่องนี้คนขอนแก่นมีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มต้นทั้งแนวคิด แผนในการพัฒนาเมือง เราในฐานะภาพยนตร์ก็นำมาเชื่อมต่อกันแล้วก็เอาความเป็นภาพยนตร์มาร่วมกันหาไอเดียที่ดีที่สุดสร้างหนังเรื่องแรกออกมา”
นายอภิชา กิตติสุวรรณ์ ผู้ลงทุนสร้าง กล่าวว่า สำหรับหนังเรื่อง 4 ขมัง สิ่งที่ได้กำไรในความคิดของตนคือคนขอนแก่นและจังหวัดขอนแก่น การที่มาลงทุนในหนังเรื่องนี้เราคิดว่าหนังไทยตกต่ำเราอยากจะสร้างจุดกระแสของหนังไทยขึ้นมาใหม่ มีการพูดคุยกันในกลุ่มนักลงทุนพ่อค้าในจังหวัดขอนแก่นว่าถ้าเกิดเราจะทำลักษณะที่เป็นเมืองหนัง “ขอนแก่นเมืองหนัง” เราควรจะเริ่มต้นทำให้ดูเป็นตัวอย่างก่อน ซึ่งจังหวัดขอนแก่นไม่ใช่มีแค่ประชุมสัมมนา อยากให้เกิดอาชีพใหม่ในจังหวัดขอนแก่นให้ได้และคำว่า หนัง เราทดลองทำหนังเรื่องแรกถ้าสำเร็จไม่ขาดทุนมันจะสร้างเศรษฐกิจให้จังหวัดขอนแก่นและหากคนขอนแก่นอยากลงทุนอาจจะเป็นปีละ 2-3 เรื่อง และเราก็จะออกเป็น token digital ให้คนขอนแก่นเริ่มลงทุนกันสร้างธุรกิจใหม่ของจังหวัดขอนแก่น
ทั้งนี้ ในอนาคตหากถ้ามีคนรุ่นใหม่ที่สนใจอยากจะทำหนังก็ให้ส่งเข้ามา ซึ่งเราให้นโยบายในการทำการค้าแต่การคัดหนังแต่ละเรื่องใครที่อยากสร้างหนังก็มาที่ขอนแก่นเมืองหนังและส่งบทมาเรามีทีมงานระดับปรมาจารย์เป็นคนคัดหนังซึ่งที่เราทำนั้นไม่ได้ทำเพื่อกำไรแต่เราทำเพื่อกำไรของคนขอนแก่นและจังหวัดขอนแก่นมากกว่า