ข่าวสังคม

บุรีรัมย์ ชาวบ้านบุกอำเภอจี้ถอดถอน ผญบ.ตามที่ล่ารายชื่อเกินครึ่ง บางคนบินข้ามประเทศยืนยันตัวลงชื่อปลดรับไม่ได้กับพฤติกรรม

ตัวแทนชาวบ้านรวมตัวบุกอำเภอสตึก จ.บุรีรัมย์ จี้อำเภอถอดถอน ผญบ.ตามที่มีการล่ารายชื่อเกินครึ่งของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย แต่อำเภอกลับออกประกาศให้คนที่ลงรายชื่อผ่านไปรษณีย์และอิเลกทรอนิกส์ยันยันตัว ขณะชาวบ้านบางยอมลงทุนซื้อตั๋วบินกลับมาลงชื่อยืนยันตัวตนตามประกาศอำเภอ เพราะรับไม่ได้กับพฤติกรรม และการบริหารงานไม่โปร่งใส

วันที่ 13 พ.ย. 2566 นายยงยุทธ ศรีวรรณา อดีตผู้ใหญ่บ้านโรงเลื่อย พร้อมตัวแทนชาวบ้านชุมชนโรงเลื่อย ตำบลนิคม อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ได้รวมตัวกันเดินทางไปยื่นหนังสือที่ที่ว่าการอำเภอสตึก เพื่อคัดค้านประกาศอำเภอ ลงวันที่ 6 พ.ย.66 เรื่องให้ผู้ส่งเอกสารยืนยันตัวตนเพื่อถอดถอนผู้ใหญ่บ้าน ทางไปรษณีย์และทางไปรษณีย์อิเลคทรอนิกส์ (E-mail.com) โดยให้มาแสดงตัวต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยตนเอง โดยตัวแทนชาวบ้านที่มายื่นหนังสือคัดค้าน ยืนยันว่าจะไม่เข้าร่วมการแสดงตัวตนอีกรอบตามประกาศของทางอำเภอ เพราะก่อนหน้านี้ชาวบ้านมีการลงชื่อถอดถอนผู้ใหญ่บ้านตาม พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ มาตรา 14(6) โดยการเข้าชื่อถอดถอนผู้ใหญ่บ้าน ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยอย่างถูกต้องแล้ว โดยทางอำเภอเป็นผู้ให้แบบฟอร์มมาให้ชาวบ้านลงรายชื่อทางไปรษณีย์ และอิเลคทรอนิกส์เอง

แต่ล่าสุดอำเภอกลับออกประกาศให้ชาวบ้านมายืนยันตัวตนกับเจ้าหน้าที่ด้วยตัวเองอักรอบ ที่ศาลาเอนกประสงค์ชุมชนโรงเลื่อย ในวันที่ 14 และ 15 พ.ย.66 ชาวบ้านจึงตั้งข้อสังเกตว่าการออกประกาศดังกล่าว เพื่อต้องการถ่วงเวลา หรือช่วยเหลือผู้ใหญ่บ้านที่ถูกร้องเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่ใส่ใจทุกข์สุขชาวบ้าน ทั้งยังมีพฤติกรรมบริหารงานไม่โปร่งใสหลายโครงการ ดังนั้นชาวบ้านยืนยันว่าจะไม่เข้าร่วมในการยืนยันตัวตนตามที่อำเภอออกประกาศล่าสุด เพราะมองว่าไม่มีความเป็นธรรม เนื่องจากบางคนอยู่จังหวัด ทั้งที่ลงชื่อถอดถอนไปแล้วรวมจำนวน 322 คน เกินครึ่งของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 616 เสียง ซึ่งก็เป็นไปตามระเบียบกฎหมายที่กำหนดไว้แล้ว
ทั้งนี้ ตัวแทนชาวบ้านยังอยากทราบความคืบหน้ากรณีการร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรมของ ผญบ.คนดังกล่าวด้วย หลังจากร้องเรียนไปตั้งแต่ เดือน พ.ค.66 จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งความคืบหน้าเลย

นางสุภาพร จิตรเย็น ตัวแทนชาวบ้านที่มายื่นหนังสืออำเภอ บอกว่า ที่ชาวบ้านมายื่นหนังสืออำเภอเพราะต้องการคัดค้านประกาศของอำเภอ กรณีให้ชาวบ้านที่ลงชื่อถอดถอน ผญบ. ทางไปรษณีย์ และอิเลคทรอนิกส์ไปยืนยันตัวตนอีกครั้ง มองว่าไม่เป็นธรรมเพราะทุกรายชื่อก็มีบัตร ปชช.และลายมือชื่อพร้อมเบอร์โทรชัดเจน และบางคนทำงานอยู่ต่างจังหวัด ที่สำคัญก็ทำตามระเบียบข้อกำหนด ที่ทางอำเภอให้ดำเนินการกรณีล่าชื่อถอดถอน ผญบ. แต่หาก ผญบ.ที่ถูกร้องติดใจว่ารายชื่อใดมีตัวตนจริงหรือไม่ ก็ควรจะระบุเป็นรายบุคคลมา ไม่ให้ให้ทำใหม่ทั้งหมด ซึ่งหากการร้องคัดค้านครั้งนี้ไม่ได้รับความเป็นธรรมชาวบ้านก็จะเดินหน้าร้องจังหวัด และกระทรวงมหาดไทยต่อไป

ด้านนางประทุม ดวงแก้ว อายุ 59 ปี หนึ่งในชาวบ้านชุมชนโรงเลื่อย บอกว่า ก่อนหน้านี้ตนก็ลงชื่อทางอิเลคทรอนิกส์เพื่อถอดถอนผู้ใหญ่บ้าน แต่พอทราบว่าทางอำเภอออกประกาศให้คนที่ลงชื่อทางไปรษณีย์ หรืออิเลคทรอนิกส์มายืนยันตัวตนกับเจ้าหน้าที่ด้วยตัวเอง จึงยอมเสียเงินค่าเครื่องบิน5 หมื่นบินกลับมาจากประเทศสวิทเซอร์แลนด์ เพื่อมาแสดงตัวตนถอดถอนผู้ใหญ่บ้าน เพราะสงสารลูกหลานที่ต้องทนอยู่กับผู้ใหญ่บ้านที่ไม่ใส่ใจทุกข์สุขชาวบ้าน ขาดการพัฒนา และบริหารไม่โปร่งหลายๆ โครงการ

ด้านนายเดี่ยว ยอรัมย์ ปลัดอาวุโสอำเภอสตึก ซึ่งเป็นตัวแทนรับหนังสือจากชาวบ้าน บอกว่า จะได้นำเรื่องเสนอนายอำเภอ เพื่อพิจารณาตามขั้นตอน ส่วนที่ทางอำเภอต้องออกประกาศให้ชาวบ้านที่ลงชื่อทางไปรษณีย์ และอิเลคทรอนิกส์ มายืนยันตัวตนอีกครั้งนั้น เนื่องจากทาง ผญบ.ที่ถูกร้องเรียนและลงชื่อถอดถอน มายื่นคำร้องว่ารายชื่อบางคนไม่ถูกต้อง จึงอยากให้มีการยืนยันตัวตนให้ชัดเจน ซึ่งทางอำเภอก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่ยืนยันว่าดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอน