ประชาสัมพันธ์

นครพนม หาทางออกพิจารณาการขอใช้พื้นที่บริเวณศาลากลางจังหวัด (หลังเก่า)

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดนครพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังใหม่) นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการขอใช้พื้นที่บริเวณศาลากลางจังหวัดนครพนม เพื่อร่วมกันหารือในการพิจารณาความเหมาะสมสำหรับการใช้พื้นที่ เนื่องจากมีส่วนราชการและหน่วยงานแจ้งความประสงค์ขอใช้พื้นที่ว่างศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังเก่า) ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเกิดประโยชน์สูงสุด ได้แก่ สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครพนม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนครพนม สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ สาขา 4 และสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดนครพนม

โดยในการประชุมได้มีการแจ้งให้ผู้ที่เข้าร่วมประชุม ได้รับทราบถึงระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ที่จะต้องดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามการอนุญาตใช้พื้นที่ตามความเห็นชอบของจังหวัดนครพนม และการอนุญาตจากปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ตัวแทนส่วนราชการ หน่วยงานที่จะขออนุญาตได้เข้าใจ สามารถปฏิบัติตามระเบียบได้อย่างถูกต้อง ก่อนที่จะมีการสอบถามความคิดเห็นของส่วนราชการ หน่วยงานที่ใช้พื้นที่เดิมที่มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและเหมาะสมในการใช้ประโยชน์จากพื้นที่สูงสุด โดยบางหน่วยได้มีการขอให้ดำเนินการของบประมาณมาปรับปรุงพื้นที่เพิ่มเติมจากส่วนเดิมที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่แทนการให้ใช้พื้นที่ว่างอื่นเพิ่มเติม ขณะที่บางหน่วยที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์พื้นที่บางสวนก็ขอพื้นที่ดังกล่าวให้หน่วยอื่นเข้าใช้ประโยชน์แทน โดยมีการพิจารณาจะเน้น ในเรื่องความเหมาะสมของพื้นที่ใช้งาน การอำนวยความสะดวกสำหรับการให้บริการประชาชน ไปจนถึงความปลอดภัยของตัวอาคาร และความจำเป็นเร่งด่วนในการใช้พื้นที่ ซึ่งบางหน่วยไม่เร่งด่วนก็ขอให้ชะลอการอนุญาตเพื่อรอพื้นที่จากส่วนรหน่วยที่กำลังก่อสร้างอาคารสำนักงานของตนเองที่กำลังจะแล้วเสร็จและย้ายออก โดยในโอกาสนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมยังได้มีการแจ้งถึงความคืบหน้าสำหรับการปรับปรุงซ่อมแซมศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังใหม่) ที่ก่อนหน้านี้ได้มีการสำรวจและประมาณการค่าใช้จ่ายสำหรับการซ่อมบำรุงตัวอาคารที่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการของบประมาณจากสำนักงบประมาณ เพื่อมาดำเนินการแก้ไขจำนวน 10 รายการใหญ่